ประวัติหลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ (พระครูวิบูลย์ ปัญญาวัฒน์) วัดบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
วัดบ้านกรวด เป็นวัดเก่าแก่ประจำ อำเภอบ้านกรวดตั้งขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี มีอายุนับถึงปัจจุบันไม่น้อยกว่า120 ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่10 เมษายน พุทธศักราช 2469 มีประพุทธรูปศิลา อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นประธานในพระอุโบสถ มีเจ้าอาวาสครอง วัดติดต่อกันมานับถึงปัจจุบันรวม 4 รูปด้วยกัน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์ หรือ หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ ซึ่งได้บวชเรียนมาตั้งแต่อายุได้ 22 ปี เป็นต้นมานับถึงปัจจุบัน 97 ปี นับพรรษา ได้ 76 พรรษา
เมื่อครั้งอดีตสมัยท่านเป็นพระหนุ่มๆท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งทางพระเวทย์ วิชาแพทย์แผนโบราณต่างๆ ตามความเชื่อและความนิยมของชาวพื้นบ้าน ในสมัยนั้น ได้ไปศึกษาเล่าเรียนเวทวิทยาอาคมที่จังหวัดอุดรมีชัยถึง 3 ปี (ในสมัยนั้นจังหวัดอุดรมีชัยยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย)จากนั้นท่าน ได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ แทบจะทุกภาคของไทยและประเทศ ใกล้เคียง เคยธุดงค์ไปศึกษาวิชาอาคมที่นครวัต ที่ประเทศเขมรเป็นเวลา 8 ปี จนมีความรู้เจนจบในไสยเวททุกแขนงแตกฉานในวิปัสสนากรรมฐาน อย่างแจ่มแจ้ง
ต่อมาเมื่อท่านมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับถวายที่ดินจากชาวบ้าน จากนั้นท่านก็ได้บูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า จนเป็น "วัดตาอี" ให้เห็นเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน สืบต่อมาหลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด ได้มรณภาพลง ชาวอำเภอบ้านกรวด จึงได้นิมนต์ หลวงปู่ผาด มาเป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงปู่ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด มาโดยตลอดแต่ในที่สุดท่านก็ทนแรงศรัทธาของญาติโยมไม่ไหวจึงต้องยอมรับเป็น เจ้าอาวาสวัดบ้านกรวดและดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
หลวงปู่ผาด ท่านได้พัฒนา วัดสาขาของท่านถึง 4 แห่ง ก็คือ วัดตาอี,วัดบ้านปราสาท,วัดบ้านบึงเก่า และวัดบ้านกรวด เป็นรูปเป็นร่างมาจนถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ท่านได้ปฏิเสธในการสร้างวัตถุมงคลมาโดยตลอด แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้รบเร้า หลวงปู่ว่ามีผู้เลื่อมใสศรัธาในตัวหลวงปู่ประสงค์อยากจะได้วัตถุมงคลของหลวง ปู่ผาดไว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต หลวงปู่ท่านก็เลยอนุญาต ให้จัดสร้างวัตถุมงคลที่ออกมาภายใต้ชื่อ หลวงปู่ผาด จึงออกมาน้อยมาก ดังนั้นคนที่มีอยู่ต่างหวงแหน ไม่ค่อยหลุดออกมาให้เห็นกัน ทำให้วัตถุมงคลรุ่นเก่าๆ ของท่าน หายากขึ้นเป็นเงาตามตัว
หลวงปู่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนา โดยแท้ ทุกลมหายใจเข้าออกท่านกำหนดจิตด้วยกรรมฐานมีสติอยู่เสมอ วัตถุมงคลที่ผ่าน การอธิฐานจิตจากท่านจึงทรงความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งบุญญาฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ ดุจมีแก้วสารพัดนึก ใครมีโอกาส ได้ครอบครอง ขอให้เก็บไว้บูชาดีๆ เพราะท่านเคยพูดกับศิษย์บ่อยๆ ว่า "อีกหน่อยพระของเราจะเป็นเพชร" จากอมตะวาจาของหลวงปู่อนาคตจึงไม่ต้องพูดถึงเพราะต่างทราบกันดีว่า หลวงปู่ท่าน "วาจาสิทธิ์" เป็นยิ่งนัก เอาเป็นว่าอนาคตอันใกล้คงต้องได้เห็นอย่างแน่นอนเดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอนาน เหมือนอดีต "ของดี" มีประการณ์ประเดี๋ยวก็มีคนถามหากันเอง! หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระแท้ที่กราบไหว้ได้สนิทใจสมกับ "พุทธบุตร" โดยแท้ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังพระภิกษุอย่างหลวงปู่ผาด ไม่ควรจะเป็นของอำเภอบ้านกรวด เพียงอย่างเดียวควรเป็นของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เปรียบดังช้างเผือกในป่า น่าจะมาเป็นช้างคู่บ้านคู่เมือง จึงจะถูกต้อง สมกับพระบารมีของท่านเป็นอย่างยิ่ง
กิตติคุณความเป็นผู้ทรงวิทยาพุทธาคม แม้แต่ "นักบุญแห่งภาคอีสาน" จ้าวตำรับ "กูมึง" ขนานแท้ (แม้แต่พระองค์อื่นจะใช้บ้างก็ไม่น่าพิสมัยเท่าท่าน) ยังกล่าวยกย่องเชิดชู กับคณะศรัทธาบุญจากอำเภอบ้านกรวดที่ได้เดินทางไปกราบนมัสการท่านที่ วัด เมื่อท่านสอบถามรู้ความว่าเดินทางมาจากอำเภอบ้านกรวด ท่านถึงกับออกปากพูดว่า "มึงจะมากราบมาเอาของกูทำไม มึงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่วัดบ้านกรวดโน่นของท่านศักดิ์สิทธิ์กว่าของกูตั้งเยอะ พวกมึงไม่จำเป็นต้องมาใช้ของกูเลยของดีอยู่กับท่านยังไม่รู้ค่าอีก" สำหรับประโยคคำพูดจากปากยอดพระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนเคารพกราบไหว้ ทั้ง ประเทศคงยืนยัน คุณวิเศษ ในองค์หลวงปู่ผาดได้อย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก amulet-thailand.com
วัดบ้านกรวด เป็นวัดเก่าแก่ประจำ อำเภอบ้านกรวดตั้งขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี มีอายุนับถึงปัจจุบันไม่น้อยกว่า120 ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่10 เมษายน พุทธศักราช 2469 มีประพุทธรูปศิลา อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นประธานในพระอุโบสถ มีเจ้าอาวาสครอง วัดติดต่อกันมานับถึงปัจจุบันรวม 4 รูปด้วยกัน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์ หรือ หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ ซึ่งได้บวชเรียนมาตั้งแต่อายุได้ 22 ปี เป็นต้นมานับถึงปัจจุบัน 97 ปี นับพรรษา ได้ 76 พรรษา
เมื่อครั้งอดีตสมัยท่านเป็นพระหนุ่มๆท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งทางพระเวทย์ วิชาแพทย์แผนโบราณต่างๆ ตามความเชื่อและความนิยมของชาวพื้นบ้าน ในสมัยนั้น ได้ไปศึกษาเล่าเรียนเวทวิทยาอาคมที่จังหวัดอุดรมีชัยถึง 3 ปี (ในสมัยนั้นจังหวัดอุดรมีชัยยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย)จากนั้นท่าน ได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ แทบจะทุกภาคของไทยและประเทศ ใกล้เคียง เคยธุดงค์ไปศึกษาวิชาอาคมที่นครวัต ที่ประเทศเขมรเป็นเวลา 8 ปี จนมีความรู้เจนจบในไสยเวททุกแขนงแตกฉานในวิปัสสนากรรมฐาน อย่างแจ่มแจ้ง
ต่อมาเมื่อท่านมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับถวายที่ดินจากชาวบ้าน จากนั้นท่านก็ได้บูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า จนเป็น "วัดตาอี" ให้เห็นเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน สืบต่อมาหลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด ได้มรณภาพลง ชาวอำเภอบ้านกรวด จึงได้นิมนต์ หลวงปู่ผาด มาเป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงปู่ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด มาโดยตลอดแต่ในที่สุดท่านก็ทนแรงศรัทธาของญาติโยมไม่ไหวจึงต้องยอมรับเป็น เจ้าอาวาสวัดบ้านกรวดและดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
หลวงปู่ผาด ท่านได้พัฒนา วัดสาขาของท่านถึง 4 แห่ง ก็คือ วัดตาอี,วัดบ้านปราสาท,วัดบ้านบึงเก่า และวัดบ้านกรวด เป็นรูปเป็นร่างมาจนถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ท่านได้ปฏิเสธในการสร้างวัตถุมงคลมาโดยตลอด แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้รบเร้า หลวงปู่ว่ามีผู้เลื่อมใสศรัธาในตัวหลวงปู่ประสงค์อยากจะได้วัตถุมงคลของหลวง ปู่ผาดไว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต หลวงปู่ท่านก็เลยอนุญาต ให้จัดสร้างวัตถุมงคลที่ออกมาภายใต้ชื่อ หลวงปู่ผาด จึงออกมาน้อยมาก ดังนั้นคนที่มีอยู่ต่างหวงแหน ไม่ค่อยหลุดออกมาให้เห็นกัน ทำให้วัตถุมงคลรุ่นเก่าๆ ของท่าน หายากขึ้นเป็นเงาตามตัว
หลวงปู่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนา โดยแท้ ทุกลมหายใจเข้าออกท่านกำหนดจิตด้วยกรรมฐานมีสติอยู่เสมอ วัตถุมงคลที่ผ่าน การอธิฐานจิตจากท่านจึงทรงความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งบุญญาฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ ดุจมีแก้วสารพัดนึก ใครมีโอกาส ได้ครอบครอง ขอให้เก็บไว้บูชาดีๆ เพราะท่านเคยพูดกับศิษย์บ่อยๆ ว่า "อีกหน่อยพระของเราจะเป็นเพชร" จากอมตะวาจาของหลวงปู่อนาคตจึงไม่ต้องพูดถึงเพราะต่างทราบกันดีว่า หลวงปู่ท่าน "วาจาสิทธิ์" เป็นยิ่งนัก เอาเป็นว่าอนาคตอันใกล้คงต้องได้เห็นอย่างแน่นอนเดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอนาน เหมือนอดีต "ของดี" มีประการณ์ประเดี๋ยวก็มีคนถามหากันเอง! หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระแท้ที่กราบไหว้ได้สนิทใจสมกับ "พุทธบุตร" โดยแท้ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังพระภิกษุอย่างหลวงปู่ผาด ไม่ควรจะเป็นของอำเภอบ้านกรวด เพียงอย่างเดียวควรเป็นของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เปรียบดังช้างเผือกในป่า น่าจะมาเป็นช้างคู่บ้านคู่เมือง จึงจะถูกต้อง สมกับพระบารมีของท่านเป็นอย่างยิ่ง
กิตติคุณความเป็นผู้ทรงวิทยาพุทธาคม แม้แต่ "นักบุญแห่งภาคอีสาน" จ้าวตำรับ "กูมึง" ขนานแท้ (แม้แต่พระองค์อื่นจะใช้บ้างก็ไม่น่าพิสมัยเท่าท่าน) ยังกล่าวยกย่องเชิดชู กับคณะศรัทธาบุญจากอำเภอบ้านกรวดที่ได้เดินทางไปกราบนมัสการท่านที่ วัด เมื่อท่านสอบถามรู้ความว่าเดินทางมาจากอำเภอบ้านกรวด ท่านถึงกับออกปากพูดว่า "มึงจะมากราบมาเอาของกูทำไม มึงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่วัดบ้านกรวดโน่นของท่านศักดิ์สิทธิ์กว่าของกูตั้งเยอะ พวกมึงไม่จำเป็นต้องมาใช้ของกูเลยของดีอยู่กับท่านยังไม่รู้ค่าอีก" สำหรับประโยคคำพูดจากปากยอดพระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนเคารพกราบไหว้ ทั้ง ประเทศคงยืนยัน คุณวิเศษ ในองค์หลวงปู่ผาดได้อย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก amulet-thailand.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น