ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ประวัติและปฏิปทา พระอาจารย์อุทัย สิริธโร วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน จังหวัดนครราชสีมา

ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่ออุทัย สิริธโร (พระอาจารย์อุทัย สิริธโร)

วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

เพชรน้ำหนึ่งในวงพระกรรมฐาน

“หลวงพ่ออุทัย สิริธโร” มีนามเดิมว่า นายอุทัย บุญทศ ซึ่งเป็นนามสกุลฝ่ายโยมคุณยาย ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙ จุลศักราช ๑๒๙๘ ณ บ้านหนองบก ต.หนองหิน อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันขึ้นกับ จ.ยโสธร) โยมบิดาชื่อ นายเสาร์ กาประจง โยมมารดาชื่อ นางพันธ์ บุญทศ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๓ คน ท่านเป็นบุตรคนโต คนรองเป็นชาย และคนสุดท้องเป็นหญิง



การศึกษาท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ นับว่าสูงสุดในชนบทสมัยนั้น เมื่อเรียนจบแล้ว ท่านออกมาทำงานช่วยโยมบิดา-มารดา เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวน เป็นต้น กระทั่งอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ณ วัดสำราญนิเวศ ต.ปุ่ง อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันขึ้นกับ จ.อำนาจเจริญ) โดยมี พระครูทัศนประกาศ (บุ จนฺทสิริ) เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระใบฎีกาอ่อน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “สิริธโร” อันมีความหมายเป็นมงคลว่า ผู้ทรงไว้ซึ่งศิริ (ศรี)

ครั้นเมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าบ้านหนองบก บ้านหนองบก ต.ป่าหนองบก อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดป่าหนองไคร้ ของหลวงปู่ผั่น ปาเรสโก เป็นเวลา ๓ พรรษา (พ.ศ. ๒๔๙๙-๒๕๐๑) แล้วออกแสวงหาครูบาอาจารย์ โดยมาพักปฏิบัติธรรมจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร และหลวงปู่แว่น ธนปาโล ณ วัดสันติสังฆาราม บ้านบัว ต.สว่าง อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร เป็นเวลา ๒ พรรษา (พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๐๓) จากนั้นท่านมาพักปฏิบัติธรรมจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ณ วัดถ้ำขาม บ้านคำข่า ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และวัดป่าอุดมสมพร บ้านนาหัวช้าง ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จนกระทั่งหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านได้ละสังขารลงเมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐

หลังจากนั้นหลวงพ่ออุทัยได้ปลีกวิเวกมาพักจำพรรษาอยู่ที่ ถ้ำพระภูวัว ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.หนองคาย (ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติธรรมของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร มาก่อน กระทั่งตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์จวบจนมาถึงปัจจุบัน)

เมื่อครั้นเสร็จงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ หลวงพ่ออุทัยก็จำพรรษาอยู่ที่ถ้ำพระภูวัว ร่วมกับหลวงปู่เสถียร คุณวโร เรื่อยมา

พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้แสดงธรรมเทศนากล่าวยกย่องหลวงพ่ออุทัย สิริธโร ไว้เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ มีความตอนหนึ่งว่า

(หลวงตาท่านมองไปที่รูปครูบาอาจารย์เพชรน้ำหนึ่ง) “...นั่นองค์หนึ่งพระภาวนา ชื่อเสถียร ท่านเป็นคนอุดรแล้วท่านไปภาวนาอยู่ทางเขตต่อพม่า เมืองไทย-พม่าเขตต่อ นี่สำคัญมากนะ ชื่อเสถียร บ้านเดิมท่านอยู่อุดร พาพ่อพาแม่ไปอยู่ทางนู้น มีที่สะดวกสบาย การทำมาหาเลี้ยงชีพก็สะดวก ทุกอย่างสงบสงัดทั้งด้านธรรมทั้งด้านโลก ท่านเลยชวนพ่อแม่ท่านไป ท่านเข้าท่าอยู่นะ แล้วได้ประโยชน์ ทางนู้นชื่อเสถียร นู่นอาจารย์ชา ท่านบุญมี ท่านอุทัย ท่านวันชัย หลวงพ่อตัน ท่านปัญญา นี่เพชรน้ำหนึ่งมีหลายองค์นะนี่ ท่านสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นสมัยครั้งพุทธกาลเป็นพระอรหันต์ ทุกวันนี่เทวทัตมันขวางหูขวางใจ ว่าอรหันต์ไม่ได้ เทวทัต คือพระที่ท่านจะรู้กันต้องเป็นนักภาวนาด้วยกัน ได้สนทนากันในวงภายในๆ รู้กันแต่ว่าภายใน นอกนั้นไปท่านเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เพราะฉะนั้นวงกรรมฐานกันมองเห็นกันรู้กันทันทีๆ เพราะทราบจากใจ”

และเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ มีความตอนหนึ่งว่า “...ท่านอุทัย ท่านปฏิบัติราบรื่นมาโดยลำดับนะ ทางด้านปฏิบัติท่านหนักในธรรมมาโดยลำดับ ไม่ค่อยเห็นยุ่งอะไรกับใคร กับงานอะไรไม่ค่อยไป เลยให้ท่านอยู่ที่นั่นเหมาะ การภาวนาหาอรรถหาธรรมจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้กับคนอะไรนะ เกี่ยวเฉพาะที่โคจรบิณฑบาตได้เท่านั้น นั่นละท่าน หาธรรมท่านหาอย่างนั้น”


๏ ที่มาของวัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน

เนื่องจากได้มีสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ถวายที่ดินซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แด่พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) เพื่อให้จัดตั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิบำเพ็ญเพียรภาวนา หลวงตามหาบัวท่านจึงได้ตั้งชื่อวัดว่า “วัดเขาใหญ่เจริญธรรม ญาณสัมปันโน” โดยเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๔๙ องค์ท่านได้พูดถึงวัดแห่งนี้ว่า “...อยู่นั่นก็จุดกลางทางที่จะขึ้นเขาใหญ่นั่นแหละ เห็นว่าเหมาะ ให้มีกรรมฐานตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติอรรถธรรมอยู่เป็นย่านๆ...”

ทั้งนี้ หลวงตามหาบัวท่านได้เมตตามอบหมายให้ หลวงพ่ออุทัย สิริธโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำพระภูวัว ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.หนองคาย (ในขณะนั้น) มาเป็นประธานสงฆ์และเจ้าอาวาส รับหน้าที่ดูแลและพัฒนา “วัดเขาใหญ่เจริญธรรม ญาณสัมปันโน” แห่งนี้ เพื่อให้เป็นสถานที่เผยแผ่หลักธรรมขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นที่ฝึกอบรมสอนเจริญสมาธิบำเพ็ญภาวนาให้แก่เหล่านักปฏิบัติทั้งหลายที่ตั้งใจฝึกปฏิบัติ เพื่อให้สามารถสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาและคำสั่งสอนขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าให้มั่นคง คือปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง เพื่อให้รู้แจ้งในธรรมอันเป็นเครื่องพ้นจากกองทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงสืบไป

ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน”

การเดินทางมาวัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธินจนถึง จ.สระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ, ถึงแยกต่างระดับที่ อ.ปากช่อง ให้เข้าแยกต่างระดับตามป้ายไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ถนนธนะรัชต์) จนกระทั่งถึงหลัก กม. ๒๓ (ก่อนถึงด่านเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไม่กี่ร้อยเมตร) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย นม. ๓๐๕๒ (ทางไป อ.วังน้ำเขียว) ประมาณ ๒๒ กิโลเมตร จะเห็นป้าย “วัดมกุฏคีรีวัน” ด้านขวามือ ให้เลยไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร ก็จะเห็นทางเข้า “วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน” อยู่ทางด้านขวามือ


๏ โอวาทธรรมคำสอน

“...รูปร่างกายของคนเรา ส่วนไหนมันเป็นสาระแก่นสารบ้าง ที่เราไปให้ความหมายว่าเป็นสิ่งที่เป็นสาระ แล้วไปหลงยึดมั่นในรูปนั้นว่า เป็นสาระแก่นสาร ความจริงแล้วรูปร่างกายอันนี้ ทุกสิ่งทุกอาการที่ปรากฏมันล้วนแล้วแต่จะผุพังไปตามสภาวธรรม คือ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย แล้วสลายกลายไปเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นลม เป็นไฟกันทั้งนั้น หรือจะพิจารณาไปในแง่อสุภะ ความไม่สวยไม่งาม ความปฏิกูลโสโครก ความสกปรกในโลกอันนี้ คำว่าสกปรกโสโครกนั้น มันไม่มีอะไรจะสกปรกโสโครกมากไปกว่ารูปร่างของมนุษย์นี้หรอก...”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44078

ความคิดเห็น

เนื้อหาที่ได้รับความนิยมในรอบ 1 เดือน :

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำน้อย จิตฺตคุตฺโต วัดถ้ำภูกำพร้า (วัดภูกำพร้า) จังหวัดมุกดาหาร

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำน้อย จิตฺตคุตฺโต วัดภูกำพร้า อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เกิด ไม่ทราบ มรณภาพ พ.ศ.2548 อายุ ไม่ทราบ (ว่ากันว่า 200 กว่าปี) พรรษา ไม่ทราบ สำหรับหลวงปู่คำน้อย ว่ากันว่าท่านมีถึงอายุ 238 ปี ท่านพำนักอยู่ วัดถ้ำภูกำพร้า อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่ท่าน อายุได้ 100 กว่าปี ท่านก็สามารถนั่งสมาธิถอดจิต ไปเที่ยว สวรรค์ - นรก และ บางคนเชื่อว่าท่านคือเณรคำผู้มีฤทธิ์จากภูเขาควายเมืองลาว ท่านเป็นพระใจดี สำหรับอายุของท่านเท่าที่ถามจากคนเฒ่าคนแก่ในละแวกนั้น เขาก็ว่าเกิดมาก็เห็นหลวงปู่แล้วจนเขามีอายุถึงแปดสิบเก้าสิบ หลวงปู่คำน้อยก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเมื่อสอบถามจากหลวงปู่คำน้อยก็ได้คำตอบเหมือนที่ใครๆได้รับรู้จากวาจา ท่านเองคือเปลี่ยนฟันมาสองรอบแล้ว รอบละ 120 ปี เลยอนุมานเอาว่าช่วงนั้นหลวงปู่น่าจะอายุประมาณ 200 กว่า ปี อายุใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร ก็เลยสันนิษฐานเอาว่าหลวงปู่น่าจะเกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 ครับ ปัจจุบันท่านมรณภาพไปแล้วครับ ประมาณปี 2548

ประวัติ หลวงปู่ทอง อายะนะ วัดราชโยธา

หลวงปู่ทอง อายะนะ (พ.ศ. 2363 - พ.ศ. 2480) เป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าที่มีอายุยืนยาวถึง 117 ปี ท่านเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม เชี่ยวชาญด้านพุทธาคมอย่างลึกซึ้ง เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้กับ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ส่วนลูกศิษย์ฆราวาสที่เคราพเลื่อมใสท่านมากก็คือ พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของประเทศไทย ด้านวัตถุมงคลของท่านมีทั้งพระเครื่องเนื้อพิมพ์สมเด็จ ลูกอม ชานหมาก เสื้อยันต์ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ เหรียญรุ่นแรก ประวัติหลวงปู่ทอง อายะนะ หลวงปู่ทอง อายานะ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2363 ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นบุตรของนายฮวด แซ่ลิ้ม ชาวจีนฮกเกี้ยน มารดาเป็นชาวมอญ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2384 ได้อุปสมบท ณ วัดบางเงินพรม ตลิ่งชัน โดยมีท่านเจ้าคุณวินัยกิจจารีเถระ (ภู่) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ของ วัดบางเงินพรม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาตามภาษามคธว่า อายะนะ หลังจากอุปสมบทมา ได้พำนักจำพรรษา ณ วัดแห่งนั้นเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และคอยอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ของท่านภายหลังได้ธุดงค์วัตรเพื่อแสวงหาโมกขธรรม เมื่อพระราชโยธาก่อสร้างวัดราชโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้น...

ประวัติหลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ หรือ หลวงพ่อกุหลาบ วัดบางเป้ง

ประวัติหลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ หรือ หลวงพ่อกุหลาบ วัดบางเป้ง พระครูพรหมจริยาธิมุตต์ (หลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ) หรือ หลวงพ่อหลาบ วัดบางเป้ง อดีตเจ้าอาวาสวัดบางเป้ง และอดีตเจ้าคณะอำเภอศรีราชา ท่านเป็นเกจิดังของตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ท่านพัฒนาวัดบางเป้งจนมีความรุ่งเรือง ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง ใครมาขอความช่วยเหลือจากท่านท่านก็ช่วยเหลือมิไม่ได้ขาด ท่านเป็นพระเกจิที่ชาวบางแสนให้ความเคารพอย่างมาก และท่านยังให้ความสำคัญของการศึกษาท่านได้สร้างโรงเรียนวัดบางเป้ง (กุหลาบราษฎร์อำนวยวิทย์) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 เป็นต้น ประวัติและสถานะเดิม พระครูพรหมจริยาธิมุตต์ ท่านมีนามเดิมว่า " กุหลาบ " นามสกุล " อุ่นจิตร หรือ อุ่นจิตต์ (ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบไหนครับ) " เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ตรงกับวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2431 บิดาชื่อ นายช้อน มารดาชื่อ นางเจียก อุ่นจิตร ท่านเกิด ณ หมู่ที่ 1 บ้านตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี (บริเวณสถานีดับเพลิง ต.แสนสุข) ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาจำนวน 5 คน หลวงพ่อกุหลาบเป็นบุตรคนสุดท้อง ดังนี้ พระอธิการอั...

ประวัติ หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก วัดห้วยใหญ่

พระครูภัทรกิจวิบูล (ก้าน ภทฺทโก) พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก) หรือ อาจารย์ก้าน หรือ หลวงพ่อก้าน วัดห้วยใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ เกจิดังของตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สังขารท่านไม่เน่าเปลื่อยอยู่ในโรงแก้วจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อก้านท่านพัฒนาวัดห้วยใหญ่จนรุ่นเรือง และช่วยสร้างอื่นๆ เช่นวัดนาจอมเทียน , วัดทุ่งระหาร และวัดชากแง้ว ท่านเป็นผู้ริเริ่มสร้างถนนนาจอมเทียนไปถึงถนนบ้านบึงเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร ท่านเป็นพระนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และพระนักพัฒนาที่น่ายกยอง ประวัติ หลวงพ่อก้าน มีเดิมว่า " ก้าน " นามสกุล " เจริญคลัง " ท่านเป็นคนจังหวัดชลบุรี เกิดที่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม 13 ค่ำ ปีมะแม โยมบิดาชื่อ เส็ง เกิดที่เมืองจีน โยมแม่ชื่อ นิด นามสกุล เจริญคลัง ครอบครัวมีอาชีพทำนา ชีวิตในวัยเยาว์นั้นท่านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชอบไปใส่บาตรพระกับผู้ใหญ่เสมอๆ บรรพชา เมื่ออายุได้ 14 ปี ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดห้วยใหญ่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จั...

ประวัติหลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร (พระครูธรรมสรคุณ) วัดกระทิง

ประวัติหลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร (พระครูธรรมสรคุณ) วัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี หลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร  พระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งแห่ง จันทบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิงท่านเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และมีอิทธิปาฏิหาริย์ มีวิชาอาคมอันแก่กล้า  โดยเฉพาะ ท่านสามารถใช้เวทมนตร์ สะกดพวกสัตว์ป่า ไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน ในตอนที่ เขาคิชฌกูฎ ได้เปิดให้ผู้คนขึ้นมาสักการะพระพุทธรูป ไหว้พระ และมากราบนมัสการท่าน ท่านเกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ณ บ้านกะทิง ต.พลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ (ขณะนั้นเป็นอำเภอมะขาม) จ.จันทบุรี เป็นบุตรของนายอยู่ และ นางมุ้ง ทองคำ ในครอบครัวของท่านประกอบอาชีพพวกเกษตรกรรม และการหาของป่าสมุนไพร ดังนั้น ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาพืชสมุนไพรและของป่าบนเขาคิชฌกูฏ จนมีความชำนาญ ในช่วงวัยเรียน ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จนกระทั่งพอท่านมีอายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 โดยมีพระครูนิเทศคณานุสิฏฐ์ วัดหนองอ้อ ต.มะขาม อ.มะขาม ...

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง)

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี หรือ หลวงพ่อแช่ม ท่านเกิดที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงาท่านเกิดในพุทธศักราช 2370 (ปีกุน) ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง และเป็นที่เคารพเลื่อมใสอย่างมากของชาวจังหวัดภูเก็ต ท่านได้มรณภาพ เมื่อ พ.ศ. 2451 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ประวัติพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี หรือ หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากพ่อท่านเฒ่า ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระครูวิสุทธิวงศาจาริย์ญาณมุนี" ตำแหน่งสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต ไม่ปรากฏนามโยมบิดามารดา โดยโยมบิดามารดาได้ให้ท่านอยู่ ณ วัดฉลอง โดยเป็นศิษย์ของท่านพ่อเฒ่าเมื่อครั้งเยาว์วัยจนได้บวชสามเณร และได้บรรพชาเป็นพระภิกษุจำพรรษาที่วัดฉลอง (ในปี พ.ศ. 2420 ได้รับพระราชนามเป็น วัดไชยธาราราม) ตำบลฉลอง อำเภอเมือง (เดิม ทุ่งคา) จังหวัดภูเก็ต หลวงพ่อแช่มชำนาญด้านสายวิปัสนาธุระได้รับการศึกษาด้านนี้จากพ่อท่านเฒ่าจนมีความเชี่ยวชาญ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประวัติหลวงปู่เขียว อินฺทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน

ประวัติหลวงปู่เขียว อินฺทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน หลวงปู่เขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน เป็นพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งวัดหรงบน ก่อนที่ท่านจะมรณภาพนั้นก็สามารถบอกถึงกำหนดวันมรณภาพล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ นอกจากสังขารท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้วยังเผาไหม้ได้อีกด้วย พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมสูงมาก เช่น เหรียญรูปเหมือน รูปหล่อลอยองค์ ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า เชือกคาดเอว ลูกอม ตะกรุด และพระปิตตา ฯลฯ ประวัติ หลวงปู่เขียว อินทมุนี ท่านเกิดเมื่อปี พุทธศักราช 2424 ในแผ่นดิน ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เมื่อยังเยาว์วัย พ่อท่านเขียวอาศัยพระในบ้านช่วยสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ตามอักขระสมัย ท่านชอบศึกษาเล่าเรียนเป็นชีวิตจิตใจ รวมทั้งการศึกษาวิชาอาคมตามประเพณีนิยมของชาติไทยสมัยก่อน จนเมื่อมีอายุได้ 22 ปี ท่านจึงได้ตัดสินใจสละเพศฆราวาส อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2446 ณ วัดคงคาวดี (วัดกลาง) ปีเถาะ พ.ศ. 2446 พระครูสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูบริหารสังฆกิจ (เต็ง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระเกื้อเป็นพระกรรมวาจา ได้รับฉายาว่า "อินทมุนี" หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็อยู่รับใช้ป...

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่ชาลี ถิรธัมโม วัดป่าภูก้อน จังหวัดอุดรธานี

ประวัติและปฏิปทา พระครูจิตตภาวนาญาณ (หลวงตาชาลี ถิรธมฺโม) วัดป่าภูก้อน ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี “พระครูจิตตภาวนาญาณ” หรือ “หลวงตาชาลี ถิรธมฺโม” มีนามเดิมว่า ชาลี นามสกุล บุตรน้อย เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๘ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือนแปด ปีระกา ณ บ้านเจริญศิลป์ ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร โยมบิดาชื่อ นายคำ บุตรน้อย โยมมารดาชื่อ นางกัน บุตรน้อย มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๖ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ อายุ ๑๙ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดศิริราษฎร์วัฒนา บ้านเจริญศิลป์ ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร โดยมี พระครูอดุลสังฆกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดศิริราษฎร์วัฒนา จังหวัดสกลนคร โดยมี พระอาจารย์คำมี สุวัณณสิริ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาที่วัดศิริราษฎร์วัฒนา จ.สกลนคร ๑ พรรษา แล้วเดินธุดงค์ไปจังหวัดเลย ได้จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ๑ พรรษา แล้วเดินธุดงค์ต่อไปทางภาคเหนือ, จังหวัดหนองคาย, จังหวัดอุดรธานี แล...

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ หรือ พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต วัดเวฬุวัน

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ (พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต) วัดเวฬุวัน ตำบลพยุห์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาติภูมิและอุปสมบท ณ บ้านหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ในวันศุกร์ที่  ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๓ ในครอบครัวของพ่อลี แม่ตุ่น สว่างกุล ได้ก่อกำเนิดลูกชายคนที่ ๘ จากจำนวนทั้งหมด ๙ คน เด็กคนนี้มีรูปร่างเล็กกว่าลูกคนอื่นๆ พ่อจึงได้ตั้งชื่อว่า "จ่อย" ซึ่งเป็นภาษาอีสานหมายถึงผอมแห้ง เด็กชายจ่อยได้เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวด้วยการช่วยทำงานทุกอย่างเหมือนดั่งเด็กโต ในยามว่างสิ่งหนึ่งที่เป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กชายจ่อยคือ ชอบไปนั่งคุยกับพระที่วัดถามถึงเรื่องบาปบุญว่ามีจริงไหม บาปอยู่ที่ไหน บุญอยู่ที่ใด เป็นคำถามที่พระในวัดมักจะถูกถามอยู่เสมอๆ ซึ่งพระในวัดท่านก็ตอบว่า "ถ้าอยากรู้ว่าบาปบุญมีจริงไหม ก็ลองมาบวชดูแล้วจะรู้" คำตอบที่พระท่านตอบมาทำให้ในวันนั้นเด็กชายจ่อยฝังใจในการหาคำตอบ พอเริ่มโตเป็นวัยรุ่น จึงได้ไปขออนุญาตพ่อแม่ว่า "บัดนี้ครอบครัวก็เป็นปึกแผ่นแล้ว อยากจะออกบวชเรียน เพื่อศึกษาหาคำตอบที่สงสัยมานาน" เมื่อพ่อแม่ได้ฟังดังนั้นก็ยินดีอนุโมทนาอนุญาตให้บวชเป็นสามเณ...

ประวัติหลวงพ่อคง ฐิติวิริโย หรือ หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง จังหวัดเพชรบุรี

ประวัติหลวงพ่อคง ฐิติวิริโย หรือ หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง จังหวัดเพชรบุรี พระครูถาวรวิริยคุณ (คง ฐิตวิริโย) หรือ หลวงพ่อคง ฐิติวิริโย หรือ หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดเขากลิ้ง องค์แรกและองค์ปัจจุบัน ชื่อเกิดของท่านคือ นายคง แก่นไม้อ่อน ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2466 ตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บ้านบางพลับน้อย ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๔ คน วัยเด็ก ท่านได้ย้ายจากจังหวัดสุพรรณบุรีมาอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี โดยย้ายมาอยู่กับย่าพลอย และท่านก็เป็นผู้ดูแลด้านการศึกษา อบรมเลี้ยงดูให้เป็นคนดี ท่านได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศโรงเรียนนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กับ วัดชีประชาอินทร์ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เรียนได้ 2 ปี ก็ย้ายออกเนื่องจากญาติของท่านต้องย้ายมารับราชการที่จังหวัดภูเก็ต และย่าพลอยได้ส่งหลวงพ่อท่านไปอยู่ที่วัดปากท่อ จ.ราชบุรี หลวงพ่อท่านได้เรียนหนังสือที่วัดปากท่อ 3 ปี ต่อมาท่านก็กลับมาอยู่ที่ภูเก็ตกับย่าพลอยเหมือนเดิม แต่ต่อมาคุณยายพลอยได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคอหิวาตกโรค ทำให้ชีวิตของท่านอยู่อย่างโดดเดี่...