ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระของขวัญ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หลวงพ่อวัดปากน้ำ หรือ พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร) กรุงเทพมหานคร

พระของขวัญ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หลวงพ่อวัดปากน้ำ หรือ พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร) กรุงเทพมหานคร

พระของขวัญ วัดปากน้ำเป็นพระผงขนาดเล็กที่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร) ได้สร้างขึ้นเพื่อจะมอบให้เป็นของขวัญแก่ผู้ที่มาทำบุญ เพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม พระของขวัญมีทั้งหมด 3 รุ่น คือ รุ่น 1, รุ่น 2 และรุ่น 3
พระของขวัญ รุ่นแรกสร้างขึ้นเมื่อ ปี 2493 จำนวน 84,000 องค์ ซึ่งเท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ โดยหลวงพ่อได้เจริญภาวนาวิชชาธรรมกาย เพื่อสร้างพระของขวัญตลอดพรรษา และได้เริ่มแจกหลังออกพรรษา หลวงพ่อจะแจกให้แก่ผู้ทำบุญคนละ 1 องค์เท่านั้น ไม่ว่าจะทำบริจาคทำบุญเท่าไร เพราะถือว่า ได้ตั้งใจทำและให้พระที่มีคุณค่าเกินเงินที่บริจาค

พระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดปากน้ำ พูดแนะนำพระของขวัญ

“บัดนี้ท่านทั้งหลาย บรรดาที่มารับของขวัญสมทบทุนสร้างโรงเรียนปริยัติวัดปากน้ำ ได้อุตส่าห์พยายาม มาโดยความบากบั่นตรากตรำทรมานร่างกายมา ก็เพราะอยากจะได้ของขวัญ รู้ว่าของขวัญนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นของอัศจรรย์

เมื่อเราได้ของขวัญแล้ว ให้ตั้งใจแน่แน่ว หยิบของขวัญนั้นด้วยมือของตน แก้ห่อของขวัญออก หยิบด้วยมือของตนแล้ว มาดู ให้จำของขวัญนั้นแม่นยำแน่นอน ไม่ฟั่นเฟือน ไม่หลงไหล จำได้แน่นอนแม่นยำดีแล้ว ให้น้อมเข้าไปในกลางตัว หญิงน้อมเข้าไปในทางช่องจมูกซ้าย ชายน้อมเข้าไปในทางช่องจมูกขวา เข้าไปตั้งอยู่กลางตัว กลางตัวน่ะสะดือทะลุหลัง ขวาทะลุซ้าย สะดือทะลุหลังไป เส้นหนึ่งด้ายกลุ่ม ขวาทะลุซ้ายไปเส้นหนึ่งด้ายกลุ่ม ขึงตึง ตรงกลางจดกัน นั่นเรียกว่า กลางกั๊ก อาราธนาพระไปตั้งอยู่กลางกั๊กนั้น เราหันหน้าไปทางไหน พระหันหน้าไปทางนั้น กลางกั๊กนั่นแหละถูกกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่ ตั้งอยู่กลางดวงธรรมนั้น ดวงธรรมนั้นถ้าใสสะอาดอยู่ ชีวิตเราก็เจริญรุ่งเรือง ถ้าดวงธรรมนั้นซูบซีดเศร้าหมองอยู่ ชีวิตของเราไม่ผ่องใส ซูบซีดเศร้าหมองเหมือนกัน

ภายหลัง ตั้งใจลงไปอีกชั้นหนึ่ง หญิงสอดใจไปทางช่องจมูกซ้าย ชายสอดใจไปทางช่องจมูกขวา เข้าไปตั้งไปในกลางองค์พระของขวัญนั้น พอถูกกลางองค์พระของขวัญ ก็ถูกพระพุทธเจ้านับอสงไขยไม่ถ้วน แล้วก็ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า โดยบาลีว่า “สัมมาอะระหังๆ” ให้ช่วยประคองใจเราให้หยุดให้นิ่ง “สัมมาอะระหังๆๆ” ให้ช่วยประคองใจให้หยุด “สัมมาอะระหังๆๆ” ให้ช่วยประคองใจให้หยุด

พอถูกส่วนเข้าเท่านั้น หยุดกึ๊ก ใจหยุด เมื่อใจหยุดแล้ว เราเอาใจของเราเข้ากลางของหยุดนั้น กลางของกลางๆๆๆ ซ้ายขวาหน้าหลังล่างบน นอกใน ไม่ไป กลางของกลางๆๆ หนักเข้า พอถูกส่วนเข้า เห็นพระแจ่ม ลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็น นั่งเห็น นอนเห็น เดินเห็น ยืนเห็น นึกเป็นอะไรเห็นแจ่มเวลานั้น เมื่อเห็นแจ่มดังนั้นแล้ว ใจหยุดนิ่งอยู่กับพระที่เห็นแจ่มนั่นแหละ เป็นมหัคคตกุศล กามาวจรกุศล จะทำบุญกุศลอย่างหนึ่งอย่างใดสู้ไม่ได้ สร้างวัดวาอาวาสอย่างหนึ่งอย่างใด สู้ใจหยุดนิ่งอยู่กับพระของขวัญนั้นอึดใจเดียวเท่านั้นไม่ได้ เสียเงินสักกี่โกฏิกี่ล้านก็สู้ไม่ได้

เมื่อเราเอาใจของเราจรดอยู่พระของขวัญที่เห็นแจ่มนั้น เป็นมหัคคตกุศล เป็นสมาธิแล้ว ตายไม่ตกนรก

อยู่กับพระของขวัญที่เห็นแจ่มนั่นแหละ ใจที่อยู่กลางของกลาง กลางของหยุด กลางของกลางๆๆ หนักเข้าไป อย่าถอย ตายตัวทีเดียว ไม่ถอยกลับกัน ตรงนี้ตายตัว ไม่ถอยกลับ

หนักเข้าๆ พระนั้นโตได้ แปลงสีได้ เป็นพระแก้วใส เท่าๆ ตัวเรา หรือโตกว่าตัวเรา เราก็เอาใจของเราไปหยุดนิ่งอยู่กลางองค์พระแก้ว สะดือทะลุหลัง ขวาทะลุซ้าย กลางกั๊กแบบเดียวกัน ไปหยุดนิ่งอยู่กลางองค์พระแก้วนั่น พอหยุดนิ่งอยู่กลางองค์พระแก้ว เราก็ระลึกถึงความบริสุทธิ์ดีของพระแก้วว่า “สัมมาอะระหังๆๆๆๆๆ” ใจเราก็หยุดตามเดิม หยุดก็เข้ากลางหยุดไปตามเดิม กลางของกลางๆๆๆ นิ่ง…

พระแก้วนั้นก็ใสหนักขึ้น สะอาดหนักขึ้น โตหนักขึ้น จะไปไหนกับพระแก้วนั้นก็ได้ อาราธนาพระแก้วไปนรก 456 ขุม ไปตรวจนรกดูได้ตลอด เมื่อไปถึงสัตว์นรกแล้ว จะไปพูดไปถามกับสัตว์นรกอย่างหนึ่งอย่างใดได้ตามความปรารถนา หรือจับมือจับแขนของสัตว์นรกนั้นไต่ถามก็ได้ จับมือถือแขนได้ตามชอบใจ ตามความปรารถนา เหมือนมนุษย์เรา

ถ้าว่า เราจะไปดูพวกเปรต ตรวจดูพวกเปรต มี 12 ตระกูล ไปพูดไปจากันได้ ไต่ถามบุพกรรมที่กระทำดีที่กระทำชั่วร้ายอย่างหนึ่งอย่างใดได้ บ้านช่องอยู่ที่ไหนถามได้ จับมือถือแขนกันพูดได้แบบเดียวกัน

ถ้าจะไปพวกอสุรกาย ก็แบบเดียวกัน จับมือถือแขนพูดกันได้ ไต่ถามกันได้ มีบุพกรรมอันใดกระทำไว้มาเป็น ได้มาอยู่ในอบายภูมินี้ พูดรู้เรื่องกัน จับมือถือแขนกันตามชอบใจ

ไปในพวกสัตว์เดรัจฉาน สัตว์เดรัจฉานนั้นมีกายข้างนอก ถ้ากายข้างในน่ะเป็นกายมนุษย์ละเอียดแท้ๆ นั่นก็จับมือถือแขนกันพูดได้

จะไปหาพวกมนุษย์ ตรวจดูพวกมนุษย์ มีมากน้อยเท่าไหร่ ไปตลอดหมด กายมนุษย์นั่นก็จับมือถือแขนกันพูดได้ กายหยาบกายละเอียด จับได้ทั้งนั้น

ถ้าจะไปในพวกเทวดา จาตุมหาราช ตาวติงสา ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตตวสวัตตี มีมากน้อยเท่าใด จับมือถือแขนกันพูดได้

ถ้าจะไปในพวกรูปพรหม 16 ชั้น ไปจับมือถือแขนกันพูดได้

ถ้าจะไปในพวกอรูปพรหม 4 ชั้น มีมากน้อยเท่าได้ จับมือถือแขนกันพูดได้

ถ้าจะไปในพวก… ไปหาในพระพุทธเจ้าในนิพพาน เข้าเฝ้าในพระนิพพาน ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ไปหาพระพุทธเจ้า ถึงพระพุทธเจ้าแล้ว พูดอย่างหนึ่งอย่างใดกับพระพุทธเจ้าได้ ทูลอย่างหนึ่งอย่างใดกับพระพุทธเจ้าได้ จับมือถือแขนกับพระองค์ก็ได้ เหมือนมนุษย์เราแบบเดียวกัน

เมื่อเป็นเช่นนั้น ของนี่เป็นของศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์อย่างนี้ เห็นไหมล่ะ ศักดิ์สิทธิ์นัก ถ้าใครได้ดังนี้แล้ว คนนั้นก็ตายก่อนตายได้ ก่อนจะตาย นั่งตายก็ได้ พูดไปจนกระทั่งดับจิตก็ได้ ตายเสียก่อนตาย สักชั่วโมงสองชั่วโมงได้ เพราะมีกายของขวัญ เพราะมีกายแก้วนี่สำคัญนัก

ถ้าไม่ถึงขนาดนั้น เราต้องการจะรวยในชาตินี้ จะค้าขาย เอาใจจรดเข้าที่พระของขวัญนั่น ขออาราธนาพระองค์ได้ทรงโปรด ข้าพระพุทธเจ้าเป็นพ่อค้า หญิงก็ หม่อมฉันเป็นแม่ค้า การค้าขายของข้าพระพุทธเจ้า ขอให้กว้างขวางเต็มประเทศไทย ล้นประเทศไทย ขอให้ซื้อง่ายขายคล่องกำไรงาม ดังไปถึงพระนิพพาน ส่งผังซื้อง่ายขายคล่องกำไรงามมาเต็มตัว ล้นประเทศไทยเรา ก่อนจะค้าขาย ให้ว่าอย่างนี้ทุกคราวไป ขายของ ขายง่าย ขายดาย สะดวกเหมือนเทน้ำเทท่า

ถ้าจะรับราชการ ขออาราธนาพระองค์ได้ทรงโปรด ข้าพระพุทธเจ้าเป็นผู้รับราชการ หม่อมฉันเป็นผู้รับราชการ หรือรับราชการอยู่แล้ว ก็บอกว่าข้าพุทธเจ้ารับราชการอยู่แล้ว หม่อมฉันรับราชการอยู่แล้ว ขอให้หน้าที่ราชการของข้าพระพุทธเจ้า ขอให้ราบรื่นเรียบร้อย ไม่เป็นที่สะดุดตาสะดุดใจผู้หลักผู้ใหญ่ ขอให้เป็นที่นิยมชมชอบประกอบข้าพุทธเจ้า ถ้าเป็นราชการชั้นตรี-ชั้นโท-ชั้นเอก สูงสุดในสายราชการนี้ หน้าที่ราชการชนิดใดก็อาราธนาท่านในทางชนิดนั้นไป ก็จะได้ผลสมความปรารถนา ก็ดังไปถึงพระนิพพาน ท่านก็ส่งผังราชการสูงสุดลงมาให้เต็มตัวเรา ก่อนจะรับราชการ อย่างนี้ทุกคราวไป

ถ้าว่าทำนาทำไร่ทำสวน ทำการงานด้วยปลีแข้งของตน ด้วยกำลังอวัยวะร่างกายของตน ขอพระองค์ได้ทรงโปรด การงานของข้าพระพุทธเจ้าเป็นดังนี้ ขอให้ทำง่ายทำดายทำสะดวก ได้ผลเกินควรเกินค่า นิ่งอยู่กลางองค์พระของขวัญนั้น สัมมาอะระหังๆๆ ดังเข้าไปถึงพระนิพพาน ส่งผังได้ผลเกินควรเกินค่ามาเต็มตัวเรา ถ้าเราจะไปทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ขออาราธนาพระองค์ได้ทรงโปรด ขอให้ไปดีมาดี สวัสดีมีชัย นิ่งอยู่กลางองค์พระ สัมมาอะระหังๆๆ ดังเข้าไปถึงพระนิพพาน ส่งผังไปดีมาดี สวัสดีมีชัย มาเต็มตัวเรา

เราได้ของขวัญไปแล้ว ให้ปฏิบัติให้ถูกส่วนดังนี้ ที่บอกให้ฟังนี้น่ะเป็นวิธีของการประพฤติปฏิบัติรักษาในพระของขวัญนี้

ถ้าแม้ว่า เราได้พระของขวัญนี้ เป็นกรรมสิทธิ์ของเราแล้วละก็ ติดอยู่กับตัวเสมอๆ บำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้ต่างๆ โรคภัยไข้เจ็บมีในตัวหายหมด ถ้าเด็กเล็กละก็อ้วนท้วนทีเดียว ตกน้ำก็ไม่ตาย เรือล่มก็ไม่ตาย รถชนรถทับไม่เป็นอันตรายทั้งนั้น

ถ้าลองสงครามเกิดขึ้น ไม่ต้องอพยพหลบหลีก เมื่ออยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น ตามหน้าที่ ทำมาหากินอย่างไรก็ทำมาหากินอย่างนั้น ตามหน้าที่ ถ้าเข้าสมรภูมิไปรบกับเขา ก็ไม่ต้องหวั่นหวาด มีพระของขวัญแล้ว อาวุธยุทธภัณฑ์ทำอันตรายไม่ได้ ให้รักษาไว้ให้ดีนะ เป็นของสำคัญ เหมือนแก้วสารพัดนึก

พระพุทธเจ้าท่านรับสั่งเมื่อทำสำเร็จในวันแรก เวลาได้อรุณออกพรรษา ทรงรับสั่งว่า ตั้งแต่มีธาตุมีธรรมมา ของศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก

คำนี้ ของศักดิ์สิทธิ์ในชมพูทวีป แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล นิพพานถอดกายในกายมนุษย์ ก็ดี ภาคพื้นก็ดี ศักดิ์สิทธิ์แค่ขนาดนี้ไม่มี

เพราะเหตุว่า ของศักดิ์สิทธิ์นี้ มนุษย์ไม่ได้ทำตามปกติธรรมดา อาราธนาพระพุทธเจ้ามีธรรมกาย ธรรมกายไปอาราธนามา ให้ท่านปรุงขึ้น ตบแต่งให้มนุษย์ เมื่อมนุษย์คนใดได้รับไปได้แล้ว มนุษย์คนนั้นมีสมบัติติดตัวพันล้านทุกคน คือขอท่านไว้ อาราธนาว่า มนุษย์ผู้ใดสบสมทุนสร้างโรงเรียนละก็ ขอให้เป็นเศรษฐีทุกคน ถึงอาราธนาสมบัติมาติดตัวไว้ 1,000 ล้านๆ ทุกคนไป

ให้รักษาพระนี้ไว้ให้ดี ถ้ารักษาดีละก็ เรียบร้อยท่านอยู่ได้สะดวกดี อยู่กับเรา ถ้ารักษาดูถูกดูหมิ่นน่ะหายไปเสีย ไม่อยู่ด้วย เมื่อหายไปอย่างหนึ่งอย่างใดแล้ว เคารพคารวะนับถือ ก็อาราธนาอ้อนวอน ก็กลับมาอยู่อีกได้ ให้ตั้งใจดังนี้ ไม่ใช่ของธรรมดานะ เปล่งรัศมีก็ได้ พูดก็ได้ ลอยไปก็ได้ หายไปก็ได้ กลับมาก็ได้

ของนิดหนึ่งเท่านี้ละอัศจรรย์นัก ไม่ใช่ของตาย ของเป็น เขาเรียกว่า ของสำเร็จ ของศักดิ์สิทธิ์ ให้จำไว้ให้แน่นอนนะ เอ้า แล้วก็จะแจกพระต่อไป”

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://watluangphorsodh.org

ความคิดเห็น

เนื้อหาที่ได้รับความนิยมในรอบ 1 เดือน :

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำน้อย จิตฺตคุตฺโต วัดถ้ำภูกำพร้า (วัดภูกำพร้า) จังหวัดมุกดาหาร

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำน้อย จิตฺตคุตฺโต วัดภูกำพร้า อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เกิด ไม่ทราบ มรณภาพ พ.ศ.2548 อายุ ไม่ทราบ (ว่ากันว่า 200 กว่าปี) พรรษา ไม่ทราบ สำหรับหลวงปู่คำน้อย ว่ากันว่าท่านมีถึงอายุ 238 ปี ท่านพำนักอยู่ วัดถ้ำภูกำพร้า อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่ท่าน อายุได้ 100 กว่าปี ท่านก็สามารถนั่งสมาธิถอดจิต ไปเที่ยว สวรรค์ - นรก และ บางคนเชื่อว่าท่านคือเณรคำผู้มีฤทธิ์จากภูเขาควายเมืองลาว ท่านเป็นพระใจดี สำหรับอายุของท่านเท่าที่ถามจากคนเฒ่าคนแก่ในละแวกนั้น เขาก็ว่าเกิดมาก็เห็นหลวงปู่แล้วจนเขามีอายุถึงแปดสิบเก้าสิบ หลวงปู่คำน้อยก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเมื่อสอบถามจากหลวงปู่คำน้อยก็ได้คำตอบเหมือนที่ใครๆได้รับรู้จากวาจา ท่านเองคือเปลี่ยนฟันมาสองรอบแล้ว รอบละ 120 ปี เลยอนุมานเอาว่าช่วงนั้นหลวงปู่น่าจะอายุประมาณ 200 กว่า ปี อายุใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร ก็เลยสันนิษฐานเอาว่าหลวงปู่น่าจะเกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 ครับ ปัจจุบันท่านมรณภาพไปแล้วครับ ประมาณปี 2548

ประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อมตะเถระ ๕ แผ่นดิน อายุ ๑๐๙ ปี

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล " ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบไหว้ " อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา ผู้เขียน : ClubMahaAud(73) * วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ " ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคหมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระ ที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน " # หลวงปู่หมุน ท่านกำเนิดเมื่อ พศ.2437-2546 อายุยืนถึง 109 ปี พระเครื่องของท่านออกมา ช่วงบั้นปลายชีวิต ในปีพศ.2542-45 จึงดูเหมือนเป็นพระเครื่องใหม่ อายุพระไม่เกิน10ปี ความนิยมในท้องตลาดพระเครื่อง ยังมีไม่มา...

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่เหมือน อินฺทโชโต วัดกำแพง จังหวัดชลบุรี

ประวัติและปฏิปทา พระครูอุดมวิชชากร (หลวงปู่เหมือน อินฺทโชโต) วัดกำแพง ตำบลมะขามหย่ง อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี พระครูอุดมวิชชากร (หลวงปู่เหมือน อินฺทโชโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพง และอดีตเจ้าคณะตำบลบางปลาสร้างเขต 2 หลวงปู่เหมือน ท่านเป็นเกจิดังของวัดกำแพง ตำบลมะขามหย่ง อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ท่านพัฒนาวัดกำแพงจนมีความรุ่งเรืองในหลายๆ ด้าน และยังเป็นผู้อุปการะ องค์อุปการะยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี ในพระสังฆราชูปถัมภ์ , อุปการะโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) และองค์อุปการะมูลนิธิพระครูอุดมวิชชากร อีกด้วย วัตถุมงคลของท่านได้ความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะปิดตา และเหรีญรุ่นแรก พระครูอุดมวิชชากร ท่านมีนามเดิมว่า " เหมือน " นามสกุล " ถาวรวัฒนะ " เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2436 ปีมะเส็ง ณ บ้าน ตำบลมะขามหย่ง อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 โยมบิดาชื่อ ตึ๋ง โยมมารดาชื่อ ปุ่น ถาวรวัฒนะ (มารดาเป็นน้องสาวของหลวงพ่อเจียม อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพง) บรรพชา หลวงปู่เหมือน ท่านบรรพชาเป็นสามเณร แล้วจึงอุปสมบทต่อ อุปสมบท หลวงปู่เหมือน อายุได้ 20...

ประวัติหลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ หรือ หลวงพ่อกุหลาบ วัดบางเป้ง

ประวัติหลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ หรือ หลวงพ่อกุหลาบ วัดบางเป้ง พระครูพรหมจริยาธิมุตต์ (หลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ) หรือ หลวงพ่อหลาบ วัดบางเป้ง อดีตเจ้าอาวาสวัดบางเป้ง และอดีตเจ้าคณะอำเภอศรีราชา ท่านเป็นเกจิดังของตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ท่านพัฒนาวัดบางเป้งจนมีความรุ่งเรือง ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง ใครมาขอความช่วยเหลือจากท่านท่านก็ช่วยเหลือมิไม่ได้ขาด ท่านเป็นพระเกจิที่ชาวบางแสนให้ความเคารพอย่างมาก และท่านยังให้ความสำคัญของการศึกษาท่านได้สร้างโรงเรียนวัดบางเป้ง (กุหลาบราษฎร์อำนวยวิทย์) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 เป็นต้น ประวัติและสถานะเดิม พระครูพรหมจริยาธิมุตต์ ท่านมีนามเดิมว่า " กุหลาบ " นามสกุล " อุ่นจิตร หรือ อุ่นจิตต์ (ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบไหนครับ) " เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ตรงกับวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2431 บิดาชื่อ นายช้อน มารดาชื่อ นางเจียก อุ่นจิตร ท่านเกิด ณ หมู่ที่ 1 บ้านตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี (บริเวณสถานีดับเพลิง ต.แสนสุข) ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาจำนวน 5 คน หลวงพ่อกุหลาบเป็นบุตรคนสุดท้อง ดังนี้ พระอธิการอั...

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร วัดถ้ำประทุน จังหวัดชลบุรี

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร วัดถ้ำประทุน ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ๏ อัตโนประวัติ หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร มีชาติกำเนิดในสกุล ธรรมจิตร เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันพุธ (กลางคืน) แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู ที่บ้านบึงโน ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โยมบิดาชื่อ นายมี ธรรมจิตร (ซึ่งต่อมาได้ออกบวชเป็นตาผ้าขาวจนสิ้นชีวิต) โยมมารดาชื่อ นางและ ธรรมจิตร มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมมารดาบิดาเดียวกันทั้งหมด ๕ คน เป็นชาย ๒ คน หญิง ๓ คน มีชื่อเรียงตามลำดับดังนี้ ๑. หลวงปู่วันดี ปภสฺสโร (มรณภาพแล้ว) ๒. หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร (มรณภาพปี พ.ศ. ๒๕๕๑) ๓. นางบัวพันธ์ ประณมศรี (ถึงแก่กรรมแล้ว) ๔. นางทองจันทร์ ขันธะจันทร์ ๕. นางทองผัน ธงศรี ๏ การศึกษา ท่านจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนวัดศรีชมพู (ในสมัยนั้น) บ้านบึงโน ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร และการศึกษาพระปริยัติธรรมสอบได้นักธรรมชั้นโท ๏ การบรรพชา ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๘ ณ วัดศรีสว่าง ต.โพนสูง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โดยมีพระอาจารย์ฮวด สุมโน เป็นพระอ...

ประวัติหลวงพ่อเกิด ปุณณปัญโญ หรือ หลวงพ่อเกิด วัดสะพาน

ประวัติหลวงพ่อเกิด ปุณณปัญโญ หรือ หลวงพ่อเกิด วัดสะพาน พระครูพิศาลธรรมประยุต หรือ หลวงพ่อเกิด ปฺณณปญฺโญ หรือ หลวงพ่อเกิด วัดสะพาน (6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2415 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2499) เหรียญของท่านเสมือนอัญมณีชิ้นเอกของเมืองนครนายกวัตถุมงคลของท่านช่วยคุ้มครองป้องกันภัยนานาประการ และดลบันดาลแต่สิ่งที่เป็นมงคลศิษย์เอกขงอท่านที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากท่านคือ หลวงพ่อภู่ วัดช้าง อำเภอบ้านนา หลวงพ่อเกิด ท่านเกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2415 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรของนายฉุย และนางพุ่ม สมพงษ์ เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คน อุปสมบทเมื่อมีอายุ 21 ปีตรงกับวันที่23 พฤษภาคม พ.ศ. 2436 โดยมีหลวงพ่อวัตร วัดพิกุลแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อดี วัดกุฏิเตี้ย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อเพ็ง วัดพระโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า ปุณณปัญโญ ได้อยู่ศึกษากับหลวงพ่อดี ผู้มีความชำนาญด้านรุกขมูล วิปัสสนากรรมฐาน และแพทย์แผนโบราณ มีวิทยาคมอันแก่กล้ารูปหนึ่งในสมัยนั้น จากนั้นท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสะพานตลอดมา ท่านได้ธุดงค์ไปยังเมืองเขมรและมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนวิชาจากอาจารย์ต่า...

ประวัติ หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก วัดห้วยใหญ่

พระครูภัทรกิจวิบูล (ก้าน ภทฺทโก) พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก) หรือ อาจารย์ก้าน หรือ หลวงพ่อก้าน วัดห้วยใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ เกจิดังของตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สังขารท่านไม่เน่าเปลื่อยอยู่ในโรงแก้วจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อก้านท่านพัฒนาวัดห้วยใหญ่จนรุ่นเรือง และช่วยสร้างอื่นๆ เช่นวัดนาจอมเทียน , วัดทุ่งระหาร และวัดชากแง้ว ท่านเป็นผู้ริเริ่มสร้างถนนนาจอมเทียนไปถึงถนนบ้านบึงเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร ท่านเป็นพระนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และพระนักพัฒนาที่น่ายกยอง ประวัติ หลวงพ่อก้าน มีเดิมว่า " ก้าน " นามสกุล " เจริญคลัง " ท่านเป็นคนจังหวัดชลบุรี เกิดที่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม 13 ค่ำ ปีมะแม โยมบิดาชื่อ เส็ง เกิดที่เมืองจีน โยมแม่ชื่อ นิด นามสกุล เจริญคลัง ครอบครัวมีอาชีพทำนา ชีวิตในวัยเยาว์นั้นท่านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชอบไปใส่บาตรพระกับผู้ใหญ่เสมอๆ บรรพชา เมื่ออายุได้ 14 ปี ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดห้วยใหญ่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จั...

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ หรือ พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต วัดเวฬุวัน

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ (พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต) วัดเวฬุวัน ตำบลพยุห์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาติภูมิและอุปสมบท ณ บ้านหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ในวันศุกร์ที่  ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๓ ในครอบครัวของพ่อลี แม่ตุ่น สว่างกุล ได้ก่อกำเนิดลูกชายคนที่ ๘ จากจำนวนทั้งหมด ๙ คน เด็กคนนี้มีรูปร่างเล็กกว่าลูกคนอื่นๆ พ่อจึงได้ตั้งชื่อว่า "จ่อย" ซึ่งเป็นภาษาอีสานหมายถึงผอมแห้ง เด็กชายจ่อยได้เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวด้วยการช่วยทำงานทุกอย่างเหมือนดั่งเด็กโต ในยามว่างสิ่งหนึ่งที่เป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กชายจ่อยคือ ชอบไปนั่งคุยกับพระที่วัดถามถึงเรื่องบาปบุญว่ามีจริงไหม บาปอยู่ที่ไหน บุญอยู่ที่ใด เป็นคำถามที่พระในวัดมักจะถูกถามอยู่เสมอๆ ซึ่งพระในวัดท่านก็ตอบว่า "ถ้าอยากรู้ว่าบาปบุญมีจริงไหม ก็ลองมาบวชดูแล้วจะรู้" คำตอบที่พระท่านตอบมาทำให้ในวันนั้นเด็กชายจ่อยฝังใจในการหาคำตอบ พอเริ่มโตเป็นวัยรุ่น จึงได้ไปขออนุญาตพ่อแม่ว่า "บัดนี้ครอบครัวก็เป็นปึกแผ่นแล้ว อยากจะออกบวชเรียน เพื่อศึกษาหาคำตอบที่สงสัยมานาน" เมื่อพ่อแม่ได้ฟังดังนั้นก็ยินดีอนุโมทนาอนุญาตให้บวชเป็นสามเณ...

ประวัติหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม หรือ หลวงปู่เกลี้ยง วัดศรีธาตุ (วัดโนนแกด)

ประวัติหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม หรือ หลวงปู่เกลี้ยง วัดศรีธาตุ (วัดโนนแกด) พระครูโกวิทพัฒโนดม (หลวงปู่เกลี้ยง เตชธฺมโม) พระเกจิอาจารย์ที่มีอายุเกินกว่า 100 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีธาตุ (วัดโนนแกด) อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ หลวงปู่เกลี้ยง (10 ตุลาคม พ.ศ. 2451 —) เกิดที่บ้านก้านเหลือง ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นบุตรของนายบุญมี คุณมานะ และนางผิว คุณมานะ มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ในช่วงวัยเด็กได้ศึกษาในโรงเรียนวัดบ้านโนนแกด จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และเรียนต่อ ม.3 จบในปี 2466 และท่านด้ทำงานช่วยสอนหนังสือแทนครู โรงเรียนบ้านโนนแกด สอนได้สองเดือนทางราชการให้ย้ายไปช่วยสอนที่โรงเรียนบ้านโพรง ตำบลไพรบึง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน และท่านก็ไปสอบ นักธรรมตรีที่สนามหลวง ซึ่งมีพระ สามเณร ไปสอบจำนวน 47 รูป ปรากฏว่าหลวงปู่เกลี้ยงและพระภิกษุสิงห์ สอบผ่านแค่ 2 รูป เท่านั้น จากนั้นก็เรียนต่อนักธรรมโทที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ในช่วงขณะนั้นทางราชการให้ท่านต้องเกณฑ์ทหาร ท่านจึงจำต้องลาสิกขาบท จากนั้นท่านได้อุปสมบทอีกทีเมื่อปี พ.ศ. 2518 ณ วัดบ้านแทง ...

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่วิเวียร ฐิตปุญฺโญ วัดดวงแข กรุงเทพมหานคร

ประวัติและปฏิปทา พระวิมลธรรมภาณ (หลวงปู่วิเวียร ฐิตปุญฺโญ) พระวิมลธรรมภาณ (หลวงปู่วิเวียร ฐิตปุญญเถร บุญมาก) วัดดวงแข กรุงเทพมหานคร หลวงปู่วิเวียร เกิดวันที่ 9 พฤศจิกายน 2464 บรรพชาเป็นสามเณร วันที่ 9 กรกฎาคม 2482 อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ พ.ศ. 2484 เป็นพระที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมถะและวิปัสสนาอย่างมาก ท่านเป็นพระอาจารย์สอนกัมมัฏฐานต่อผู้ใคร่ศึกษา อาจารย์ของท่านประกอบด้วย พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน (ลูกศิษย์องค์สำคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม จังหวัดชลบุรี หลวงพ่ออยู่ วัดบ้านแก่ง จังหวัดนครสวรรค์ (ศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท,หลวงปู่เฮง คงฺคสุวณฺโณ วัดเขาดิน จังหวัดนครสวรรค์ และหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์) วัตถุมงคลที่ท่านอธิฏฐานจิตมีพุทธานุภาพและกฤดาภินิหารอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์และผู้นิยมพระเครื่อง หลวงปู่วิเวียร ฐิตปุญญเถร (บุญมาก) ละสังขาร เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2537 เวลา 4 ทุ่มตรง รวมสิริอายุได้ 73 ปี พรรษา 53 การเข้าสู่เส้นทางวิปัสสนากัมมัฎฐานและพระเวทย์วิทยาคม พระวิมลธรรมภาณ ...