ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

9 เหรียญ ยอดนิยม หายาก ราคาแพง ของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา

เหรียญหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 9 รุ่น แพงและหายาก

ช่วงนี้พุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศ ศิษยานุศิษย์ของ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เป็นกรณีพิเศษ เริ่มจากวันที่ 20 ม.ค.62 จัดพิธีบรรจุสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ วันที่ 21 ม.ค. เวลา 06.00 น. เคลื่อนร่างครูใหญ่ทั้งหมดจากคณะแพทยศาสตร์ ไป ยังศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากนั้นเวลา 13.00 น. จะเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณไปยังศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกเพื่อทำพิธีขอขมาครูใหญ่ทั้งหมด และเวลา 17.00 น. มีพิธีขอขมาครูใหญ่ ส่วนระหว่างวันที่ 22-28 ม.ค. จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพโดยจะเปิดให้ประชาชนได้วางดอกไม้จันทน์ ทั้งที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกและที่เมรุลอยชั่วคราว วัดหนองแวงพระอารามหลวง บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสานตลอดทั้งวัน สำหรับวันที่ 29 ม.ค. จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ โดยในเวลา 12.00 น. จะเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ไปยังฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวงพระอารามหลวง ณ บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสานขอนแก่น และจะมีฤกษ์พิธีเผาจริงเวลา 20.00 น. และในวันที่ 30 ม.ค. มีพิธีทำบุญอัฐิและมอบอัฐิแก่ญาติครูใหญ่ ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก จากนั้นจะมีการเดินทางไปลอยอังคารและเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณกลางแม่น้ำโขง จ.หนองคาย ถึงแม้ว่า “หลวงพ่อคูณ” ได้ละสังขารมรณภาพอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 11.45 น. ของวันที่ 16 พ.ค.58 แต่ด้วยกิจวัตรที่งดงาม และคุณความดีที่หลวงพ่อคูณได้ทำไว้ให้กับพระพุทธศาสนา และเมตตาช่วยเหลือพุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ทุกคนที่เดินทางมาขอความช่วยเหลือ ทำให้หลวงพ่อคูณยังอยู่ในจิตใจของคนไทยทั่วประเทศตลอดไป นอกจากนี้ ยังมีวัตถุมงคลอีกหลายอย่างที่หลวงพ่อคูณได้สร้างไว้ให้พุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยเฉพาะ “เหรียญหลวงพ่อคูณ” ยอดนิยม 9 รุ่น ที่ปัจจุบันแต่ละรุ่นเป็นที่นิยมของนักสะสมพระเครื่อง โด่งดังไปถึงต่างประเทศ จนกลายเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาอย่างมาก ซึ่งบางรุ่นก็มีราคาทะลุ 8 หลักไปแล้วเริ่มที่
อันดับ 1 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 2519 - เหรียญทองแดง (สร้าง 2,519 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 300,000-500,000 บาท - เหรียญนวะ (สร้าง 999 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 600,000-800,000 บาท - เหรียญเงิน (สร้าง 199 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 1,000,000-2,000,000 บาท - เหรียญทองคำ (สร้าง 99 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 5,000,000-10,000,000 บาท สาเหตุที่รุ่นสร้างบารมี ปี 2519 มีราคาสูงกว่า เหรียญหลวงพ่อคุณรุ่นแรก ปี 2512 ทั้งๆ ที่สร้างออกมาภายหลังนั้น มีเหตุผลมาจาก เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 2519 ถูกจัดทำขึ้นที่วัดบ้านไร่เป็นครั้งแรก ประกอบกับมีรูปแบบสวยงาม แกะพิมพ์ได้เหมือนองค์จริงของหลวงพ่อคูณ และประณีตมากกว่ารุ่นแรก ถือว่าเป็นรุ่นที่นิยมสุดรุ่นหนึ่ง เนื่องจากเป็นรุ่นเก่าแก่ และจำนวนการสร้างไม่มากนัก

อันดับที่ 2 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นนั่งพานชนะมาร ปี 2537 - เหรียญทองแดง (สร้าง 20,000 เหรียญ) ทองเหลือง (10,000 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท - เหรียญนวะ (สร้าง 5,000 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 บาท - เหรียญเงิน (สร้าง 2,500 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 80,000-90,000 บาท - เหรียญทองคำ (สร้าง 199 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 800,000-1,000,000 บาท รุ่นนั่งพานชนะมาร ปี 2537 เป็นเหรียญนั่งพานที่สวยที่สุด ของหลวงพ่อคูณ และเหรียญทุกเหรียญมีการตอกโค้ดและรันนัมเบอร์ทุกเหรียญ เหล่าพ่อค้าแม่ขาย มักนิยมเช่าบูชา การออกแบบเหรียญรุ่นนี้เป็นการผสมกันระหว่างเหรียญนั่งพานของหลวงปู่ทิม วัด ละหารไร่ จ.ระยอง ซึ่งเป็นเจ้าตำรับของเหรียญนั่งพาน บวกกับเหรียญสร้างบารมีปี 19 ที่แสนโด่งดังของหลวงพ่อคูณ กลายมาเป็นเหรียญนั่งพานชนะมาร

อันดับที่ 3 : เหรียญหลวงพ่อคุณรุ่นแรก ปี 2512 - ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 400,000-500,000 บาท (หากสภาพดี สมบูรณ์ ราคามีโอากาสเหยียบล้าน) เหรียญรุ่นแรก ปี พ.ศ. 2512 ออกที่วัดแจ้งนอก เหรียญรุ่นนี้ออกให้ประชาชนทำบุญบูชา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2512 เป็นที่ระลึกงานฉลองพระประธาน วัดแจ้งนอก จ.นครราชสีมา จำนวนสร้าง 10,000 เหรียญ แม้หรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก วัดแจ้งนอก จะออกไม่ตรงวัด แต่หลวงพ่อคูณ เมตตาปลุกเสกให้อย่างสมบูรณ์ โดยพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งถือว่ารุ่น 1 ทำให้ท่านเริ่มเป็นที่รู้จักของประชาชน จากเหตุการณ์ที่จ่าอากาศสังกัดกองบิน 3 จังหวัดนครราชสีมา ถูกพวกไม่หวังดียิงที่ อ.ท่าลาน ถามแล้วได้ความว่าจ่าอากาศท่านนี้มีตะกรุดทองคำและเหรียญหลวงพ่อคูณ ในช่วง พ.ศ. 2512 นั้น การทำสงครามกับคอมมิวนิสต์มิใช่มีแต่เมืองไทย หากแต่มีทั่วอินโดจีน โดยมีสหรัฐอเมริกามาตั้งฐานทัพที่อุดร ตาคลี ทหารอเมริกันที่ประจำหน่วยรบ ส่วนมากมีเมียเช่าที่เป็นคนไทย ทำให้ทหารตาน้ำข้าวรู้จักเหรียญหลวงพ่อคูณและนำติดตัวเวลาออกรบ

อันดับที่ 4 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นเจริญพรบน ปี 2536 - เหรียญเนื้อเงิน ไม่ตัดปีก (โค้ด ๙ เก้าตัว) สร้าง 100 เหรียญ - เหรียญเนื้อนวโลหะ ไม่ตัดปีก (โค้ด ๙ เก้าตัว) สร้าง 100 เหรียญ - เหรียญเนื้อทองแดง ไม่ตัดปีก (โค้ด ๙ เก้าตัว) สร้าง 100 เหรียญ - เหรียญเนื้อเงิน ตอกหมายเลข สร้างจำนวน 999 เหรียญ (เนื้อเงินที่ตอกเลข ๙ สังฆาฏิ มีจำนวนไม่เกิน 50 เหรียญ) - เหรียญเนื้อนวโลหะ ตอกหมายเลข สร้างจำนวน 999 เหรียญ - เหรียญเนื้อทองแดง สร้างจำนวน 10,000 เหรียญ ดังนั้น เนื้อเงินที่ตอกเลข ๙ สังฆาฏิ มีจำนวนไม่เกิน 50 เหรียญ จะมีราคาเช่าอยู่ที่ 300,000 บาทขึ้นไป ส่วนไม่ตอกเลข ๙ สังฆาฏิ มีราคาเช่าอยู่ที่ 250,000-300,000 บาทขึ้นไป เหรียญเจริญพรบน ด้านหลังมีคำอวยพรว่า “เมตตามหานิยม” ทำให้เหรียญเจริญพรบน ได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้งยัง เป็นเหรียญที่มีความสวยงามประทับใจมากที่สุดของหลวงพ่อคูณ ทั้งรูปทรงและการแกะพิมพ์ใบหน้าของหลวงพ่อคูณที่ดูสวยงามลงตัวอย่างที่สุด

อันดับที่ 5 : เหรียญหลวงพ่อคุณ ปี 2517 - เหรียญทองแดง ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 บาท - เหรียญนวะ ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 150,000-200,000 บาท เหรียญหลวงพ่อคูณปี 2517 เป็นเหรียญหลักยอดนิยม แต่ด้วยจำนวนสร้างไว้มาก จึงทำให้ราคาค่านิยมไม่แรงเหมือนเหรียญรุ่นสร้างบารมีปี 2519 ที่ท่านสร้างเนื้อทองแดงไว้เพียง 2,519 เหรียญ ตามปี พ.ศ. ด้านบนเขียนว่า “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ส่วนด้านล่างเขียนว่า “วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด นครราชสีมา” ด้านหลังบรรจุดวงชะตาของ หลวงพ่อคูณ ล้อมด้วยพระคาถาภาษาขอมว่า “สะนิทัสสะนะ อัปปะฏิคา” “มะอะอุ” เป็นพระคาถามหาอุด หยุดกระสุนปืนไม่ให้ออก หากออกมาจะทำให้ปากกระบอกปืนแตก จึงเชื่อว่า สามารถป้องกันภัยจากปืนได้

อันดับที่ 6 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นคุณพระเทพประทานพร ปี 2536 - เหรียญทองคำ ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 200,000-300,000 บาท รุ่นคุณพระเทพประทานพร ดร.พระมหาปรีชา หลานแท้ๆ ของหลวงพ่อคูณ เคยหอบหิ้วกันไปลำบากลำบนที่ประเทศอินเดียกับหลวงพ่อเมื่อหลายสิบปีก่อน ท่านได้ดูแลโรงเรียนพระปริยัติธรรมซึ่งอยู่ในความอุปถัมภ์ของหลวงพ่อคูณอยู่ ซึ่งท่านก็มาเบิกค่าใช้จ่ายต่อหลวงพ่ออยู่เรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งหลวงพ่อก็ได้ดำริว่า ให้ท่านสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อขึ้นมา เพื่อเป็นกองทุนไว้ใช้จ่ายในเรื่องของโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่ท่านดูแลนี้ ขึ้นมา ดร.พระมหาปรีชา จึงได้ปรึกษากับลูกศิษย์คนสนิทก็คือ คุณโอฬาร อากาศวิภาต ให้ช่วยจัดการดำเนินการให้และได้สร้างเหรียญออกมารุ่นหนึ่ง คือ รุ่นคุณพระเทพพิทักษ์ และออกให้บูชาได้รายได้มาจำนวนเล็กน้อยไม่บรรลุ วัตถุประสงค์ที่จะทำให้ โรงเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ได้ด้วยตนเอง จึงได้ทำการจัดสร้างขึ้นมาใหม่อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งก็คือรุ่นคุณพระเทพประทานพร ซึ่งคำว่าคุณพระเทพ หมายถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่ท่านเสด็จมายังวัดบ้านไร่ในปีนั้น และในที่สุดรุ่นคุณพระเทพประทานพร ก็สามารถตั้งกองทุนบุญนิธิฯ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไปในด้านโรงเรียนพระปริยัติธรรมได้ต่อไปสมดังเจตนา ของหลวงพ่อคูณที่ดำริไว้ทุกประการ

อันดับที่ 7 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นธนาคารศรีนคร ปี 2521 - เหรียญเงินราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ พ.ศ.2521 เป็นเหรียญของหลวงพ่อคูณอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จัดสร้างโดยธนาคารศรีนคร เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสเปิดสำนักงานของธนาคารที่จังหวัดนครราชสีมา ในนามของวัดสระแก้ว อำเภอเมือง นครราชสีมา จำนวนที่จัดสร้างมีเหรียญเงิน 200 เหรียญ เนื้อนวโลหะ 500 เหรียญ และเหรียญทองแดง 5,000 เหรียญ

อันดับที่ 8 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นเพชรน้ำเอก ปี 2536 - เหรียญทองแดง ราคาเช่าอยู่ที่หลักร้อยบาท - เหรียญนวะ ราคาเช่าอยู่ที่หลักพันต้นๆ - เหรียญเงิน ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 บาท - เหรียญทองคำ ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นเพชรน้ำเอก ปี 2536 ปลุกเสกให้ศิษย์เอกเป็นพิเศษ คือ คุณไสว พราหมณี (อดีตอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์) เพื่อหารายได้สร้างอาคารที่พักเด็กพิการ อาคารอเนกประสงค์และจัดซื้อรถพยาบาลให้แก่สถานสงเคราะห์เด็กพิการฯ หลังจากเสร็จพิธีปลุกเสกเหรียญรุ่น เพชรน้ำเอก หลวงพ่อคูณ ได้ใช้เวลาปลุกเสกตั้งแต่เวลา 01.00 น. จนถึงเวลา รุ่งเช้า 07.00 น. ของวันที่ 28 ก.ย.2536 โดยใช้เวลาปลุกเสกต่อเนื่อง ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ท่านได้ฝากข้อความผ่าน นายเทียน อายะนันทน์ ผู้อำนวยการกองสัมมาอาชีวสงเคราะห์ ในเวลานั้น และนายสมพร อัมพะวะศิริ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กฯ ใจความว่า มึงกลับไปบอกไอ้ไหว (นายไสว พราหมณี) ด้วยว่า มึงเกิดอีก 7 ชั่วโคตร มึงก็ยังไม่ได้เห็นเหรียญแบบรุ่นเพชรน้ำเอกนี้ ซึ่งท่านหมายความว่า ท่านปลุกเสกให้อย่างดี นานต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงเต็ม โดยที่หลวงพ่อคูณ ยังไม่เคยปลุกเสกเหรียญรุ่นใด ยาวนานต่อเนื่องเช่นนี้

อันดับที่ 9 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นคุณพระเทพวิทยาคม ปี 2556 - เหรียญทองแดง (สร้าง 19,999 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณหลักพันบาท - เหรียญนวโลหะ (สร้าง 2,499 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาท - เหรียญเงิน (สร้าง 999 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาท - เหรียญทองคำลงยา (ลงสีที่พระ) (สร้าง 99 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท รุ่นคุณพระเทพวิทยาคม ปี 2556 เป็นรุ่นที่สวยที่สุดตั้งแต่หลวงพ่อคูณสร้างขึ้นมา ซึ่งมีเกจิดังทั่วประเทศไทยมาร่วมปลุกเสกในรุ่นนี้ด้วย ถือว่าเป็นพิธีการปลุกเสกดีที่สุด

 สยามรัฐออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2563 07:10 น. สยามรัฐพระเครื่อง
https://siamrath.co.th/n/61591

ความคิดเห็น

เนื้อหาที่ได้รับความนิยมในรอบ 1 เดือน :

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำน้อย จิตฺตคุตฺโต วัดถ้ำภูกำพร้า (วัดภูกำพร้า) จังหวัดมุกดาหาร

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำน้อย จิตฺตคุตฺโต วัดภูกำพร้า อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เกิด ไม่ทราบ มรณภาพ พ.ศ.2548 อายุ ไม่ทราบ (ว่ากันว่า 200 กว่าปี) พรรษา ไม่ทราบ สำหรับหลวงปู่คำน้อย ว่ากันว่าท่านมีถึงอายุ 238 ปี ท่านพำนักอยู่ วัดถ้ำภูกำพร้า อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่ท่าน อายุได้ 100 กว่าปี ท่านก็สามารถนั่งสมาธิถอดจิต ไปเที่ยว สวรรค์ - นรก และ บางคนเชื่อว่าท่านคือเณรคำผู้มีฤทธิ์จากภูเขาควายเมืองลาว ท่านเป็นพระใจดี สำหรับอายุของท่านเท่าที่ถามจากคนเฒ่าคนแก่ในละแวกนั้น เขาก็ว่าเกิดมาก็เห็นหลวงปู่แล้วจนเขามีอายุถึงแปดสิบเก้าสิบ หลวงปู่คำน้อยก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเมื่อสอบถามจากหลวงปู่คำน้อยก็ได้คำตอบเหมือนที่ใครๆได้รับรู้จากวาจา ท่านเองคือเปลี่ยนฟันมาสองรอบแล้ว รอบละ 120 ปี เลยอนุมานเอาว่าช่วงนั้นหลวงปู่น่าจะอายุประมาณ 200 กว่า ปี อายุใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร ก็เลยสันนิษฐานเอาว่าหลวงปู่น่าจะเกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 ครับ ปัจจุบันท่านมรณภาพไปแล้วครับ ประมาณปี 2548

ประวัติ หลวงปู่ทอง อายะนะ วัดราชโยธา

หลวงปู่ทอง อายะนะ (พ.ศ. 2363 - พ.ศ. 2480) เป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าที่มีอายุยืนยาวถึง 117 ปี ท่านเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม เชี่ยวชาญด้านพุทธาคมอย่างลึกซึ้ง เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้กับ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ส่วนลูกศิษย์ฆราวาสที่เคราพเลื่อมใสท่านมากก็คือ พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของประเทศไทย ด้านวัตถุมงคลของท่านมีทั้งพระเครื่องเนื้อพิมพ์สมเด็จ ลูกอม ชานหมาก เสื้อยันต์ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ เหรียญรุ่นแรก ประวัติหลวงปู่ทอง อายะนะ หลวงปู่ทอง อายานะ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2363 ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นบุตรของนายฮวด แซ่ลิ้ม ชาวจีนฮกเกี้ยน มารดาเป็นชาวมอญ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2384 ได้อุปสมบท ณ วัดบางเงินพรม ตลิ่งชัน โดยมีท่านเจ้าคุณวินัยกิจจารีเถระ (ภู่) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ของ วัดบางเงินพรม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาตามภาษามคธว่า อายะนะ หลังจากอุปสมบทมา ได้พำนักจำพรรษา ณ วัดแห่งนั้นเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และคอยอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ของท่านภายหลังได้ธุดงค์วัตรเพื่อแสวงหาโมกขธรรม เมื่อพระราชโยธาก่อสร้างวัดราชโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้น...

ประวัติหลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ หรือ หลวงพ่อกุหลาบ วัดบางเป้ง

ประวัติหลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ หรือ หลวงพ่อกุหลาบ วัดบางเป้ง พระครูพรหมจริยาธิมุตต์ (หลวงพ่อกุหลาบ พุทฺธโชติ) หรือ หลวงพ่อหลาบ วัดบางเป้ง อดีตเจ้าอาวาสวัดบางเป้ง และอดีตเจ้าคณะอำเภอศรีราชา ท่านเป็นเกจิดังของตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ท่านพัฒนาวัดบางเป้งจนมีความรุ่งเรือง ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง ใครมาขอความช่วยเหลือจากท่านท่านก็ช่วยเหลือมิไม่ได้ขาด ท่านเป็นพระเกจิที่ชาวบางแสนให้ความเคารพอย่างมาก และท่านยังให้ความสำคัญของการศึกษาท่านได้สร้างโรงเรียนวัดบางเป้ง (กุหลาบราษฎร์อำนวยวิทย์) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 เป็นต้น ประวัติและสถานะเดิม พระครูพรหมจริยาธิมุตต์ ท่านมีนามเดิมว่า " กุหลาบ " นามสกุล " อุ่นจิตร หรือ อุ่นจิตต์ (ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบไหนครับ) " เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ตรงกับวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2431 บิดาชื่อ นายช้อน มารดาชื่อ นางเจียก อุ่นจิตร ท่านเกิด ณ หมู่ที่ 1 บ้านตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี (บริเวณสถานีดับเพลิง ต.แสนสุข) ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาจำนวน 5 คน หลวงพ่อกุหลาบเป็นบุตรคนสุดท้อง ดังนี้ พระอธิการอั...

ประวัติ หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก วัดห้วยใหญ่

พระครูภัทรกิจวิบูล (ก้าน ภทฺทโก) พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก) หรือ อาจารย์ก้าน หรือ หลวงพ่อก้าน วัดห้วยใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ เกจิดังของตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สังขารท่านไม่เน่าเปลื่อยอยู่ในโรงแก้วจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อก้านท่านพัฒนาวัดห้วยใหญ่จนรุ่นเรือง และช่วยสร้างอื่นๆ เช่นวัดนาจอมเทียน , วัดทุ่งระหาร และวัดชากแง้ว ท่านเป็นผู้ริเริ่มสร้างถนนนาจอมเทียนไปถึงถนนบ้านบึงเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร ท่านเป็นพระนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และพระนักพัฒนาที่น่ายกยอง ประวัติ หลวงพ่อก้าน มีเดิมว่า " ก้าน " นามสกุล " เจริญคลัง " ท่านเป็นคนจังหวัดชลบุรี เกิดที่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม 13 ค่ำ ปีมะแม โยมบิดาชื่อ เส็ง เกิดที่เมืองจีน โยมแม่ชื่อ นิด นามสกุล เจริญคลัง ครอบครัวมีอาชีพทำนา ชีวิตในวัยเยาว์นั้นท่านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชอบไปใส่บาตรพระกับผู้ใหญ่เสมอๆ บรรพชา เมื่ออายุได้ 14 ปี ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดห้วยใหญ่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จั...

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ หรือ พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต วัดเวฬุวัน

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ (พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต) วัดเวฬุวัน ตำบลพยุห์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาติภูมิและอุปสมบท ณ บ้านหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ในวันศุกร์ที่  ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๓ ในครอบครัวของพ่อลี แม่ตุ่น สว่างกุล ได้ก่อกำเนิดลูกชายคนที่ ๘ จากจำนวนทั้งหมด ๙ คน เด็กคนนี้มีรูปร่างเล็กกว่าลูกคนอื่นๆ พ่อจึงได้ตั้งชื่อว่า "จ่อย" ซึ่งเป็นภาษาอีสานหมายถึงผอมแห้ง เด็กชายจ่อยได้เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวด้วยการช่วยทำงานทุกอย่างเหมือนดั่งเด็กโต ในยามว่างสิ่งหนึ่งที่เป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กชายจ่อยคือ ชอบไปนั่งคุยกับพระที่วัดถามถึงเรื่องบาปบุญว่ามีจริงไหม บาปอยู่ที่ไหน บุญอยู่ที่ใด เป็นคำถามที่พระในวัดมักจะถูกถามอยู่เสมอๆ ซึ่งพระในวัดท่านก็ตอบว่า "ถ้าอยากรู้ว่าบาปบุญมีจริงไหม ก็ลองมาบวชดูแล้วจะรู้" คำตอบที่พระท่านตอบมาทำให้ในวันนั้นเด็กชายจ่อยฝังใจในการหาคำตอบ พอเริ่มโตเป็นวัยรุ่น จึงได้ไปขออนุญาตพ่อแม่ว่า "บัดนี้ครอบครัวก็เป็นปึกแผ่นแล้ว อยากจะออกบวชเรียน เพื่อศึกษาหาคำตอบที่สงสัยมานาน" เมื่อพ่อแม่ได้ฟังดังนั้นก็ยินดีอนุโมทนาอนุญาตให้บวชเป็นสามเณ...

ประวัติหลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร (พระครูธรรมสรคุณ) วัดกระทิง

ประวัติหลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร (พระครูธรรมสรคุณ) วัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี หลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร  พระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งแห่ง จันทบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิงท่านเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และมีอิทธิปาฏิหาริย์ มีวิชาอาคมอันแก่กล้า  โดยเฉพาะ ท่านสามารถใช้เวทมนตร์ สะกดพวกสัตว์ป่า ไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน ในตอนที่ เขาคิชฌกูฎ ได้เปิดให้ผู้คนขึ้นมาสักการะพระพุทธรูป ไหว้พระ และมากราบนมัสการท่าน ท่านเกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ณ บ้านกะทิง ต.พลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ (ขณะนั้นเป็นอำเภอมะขาม) จ.จันทบุรี เป็นบุตรของนายอยู่ และ นางมุ้ง ทองคำ ในครอบครัวของท่านประกอบอาชีพพวกเกษตรกรรม และการหาของป่าสมุนไพร ดังนั้น ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาพืชสมุนไพรและของป่าบนเขาคิชฌกูฏ จนมีความชำนาญ ในช่วงวัยเรียน ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จนกระทั่งพอท่านมีอายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 โดยมีพระครูนิเทศคณานุสิฏฐ์ วัดหนองอ้อ ต.มะขาม อ.มะขาม ...

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่ชาลี ถิรธัมโม วัดป่าภูก้อน จังหวัดอุดรธานี

ประวัติและปฏิปทา พระครูจิตตภาวนาญาณ (หลวงตาชาลี ถิรธมฺโม) วัดป่าภูก้อน ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี “พระครูจิตตภาวนาญาณ” หรือ “หลวงตาชาลี ถิรธมฺโม” มีนามเดิมว่า ชาลี นามสกุล บุตรน้อย เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๘ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือนแปด ปีระกา ณ บ้านเจริญศิลป์ ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร โยมบิดาชื่อ นายคำ บุตรน้อย โยมมารดาชื่อ นางกัน บุตรน้อย มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๖ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ อายุ ๑๙ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดศิริราษฎร์วัฒนา บ้านเจริญศิลป์ ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร โดยมี พระครูอดุลสังฆกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดศิริราษฎร์วัฒนา จังหวัดสกลนคร โดยมี พระอาจารย์คำมี สุวัณณสิริ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาที่วัดศิริราษฎร์วัฒนา จ.สกลนคร ๑ พรรษา แล้วเดินธุดงค์ไปจังหวัดเลย ได้จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ๑ พรรษา แล้วเดินธุดงค์ต่อไปทางภาคเหนือ, จังหวัดหนองคาย, จังหวัดอุดรธานี แล...

ประวัติหลวงปู่เขียว อินฺทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน

ประวัติหลวงปู่เขียว อินฺทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน หลวงปู่เขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน เป็นพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งวัดหรงบน ก่อนที่ท่านจะมรณภาพนั้นก็สามารถบอกถึงกำหนดวันมรณภาพล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ นอกจากสังขารท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้วยังเผาไหม้ได้อีกด้วย พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมสูงมาก เช่น เหรียญรูปเหมือน รูปหล่อลอยองค์ ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า เชือกคาดเอว ลูกอม ตะกรุด และพระปิตตา ฯลฯ ประวัติ หลวงปู่เขียว อินทมุนี ท่านเกิดเมื่อปี พุทธศักราช 2424 ในแผ่นดิน ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เมื่อยังเยาว์วัย พ่อท่านเขียวอาศัยพระในบ้านช่วยสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ตามอักขระสมัย ท่านชอบศึกษาเล่าเรียนเป็นชีวิตจิตใจ รวมทั้งการศึกษาวิชาอาคมตามประเพณีนิยมของชาติไทยสมัยก่อน จนเมื่อมีอายุได้ 22 ปี ท่านจึงได้ตัดสินใจสละเพศฆราวาส อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2446 ณ วัดคงคาวดี (วัดกลาง) ปีเถาะ พ.ศ. 2446 พระครูสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูบริหารสังฆกิจ (เต็ง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระเกื้อเป็นพระกรรมวาจา ได้รับฉายาว่า "อินทมุนี" หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็อยู่รับใช้ป...

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง)

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี หรือ หลวงพ่อแช่ม ท่านเกิดที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงาท่านเกิดในพุทธศักราช 2370 (ปีกุน) ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง และเป็นที่เคารพเลื่อมใสอย่างมากของชาวจังหวัดภูเก็ต ท่านได้มรณภาพ เมื่อ พ.ศ. 2451 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ประวัติพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี หรือ หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากพ่อท่านเฒ่า ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระครูวิสุทธิวงศาจาริย์ญาณมุนี" ตำแหน่งสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต ไม่ปรากฏนามโยมบิดามารดา โดยโยมบิดามารดาได้ให้ท่านอยู่ ณ วัดฉลอง โดยเป็นศิษย์ของท่านพ่อเฒ่าเมื่อครั้งเยาว์วัยจนได้บวชสามเณร และได้บรรพชาเป็นพระภิกษุจำพรรษาที่วัดฉลอง (ในปี พ.ศ. 2420 ได้รับพระราชนามเป็น วัดไชยธาราราม) ตำบลฉลอง อำเภอเมือง (เดิม ทุ่งคา) จังหวัดภูเก็ต หลวงพ่อแช่มชำนาญด้านสายวิปัสนาธุระได้รับการศึกษาด้านนี้จากพ่อท่านเฒ่าจนมีความเชี่ยวชาญ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่ทองคำ สุวโจ ที่พักสงฆ์ย่านยาว จังหวัดพิษณุโลก

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่ทองคำ สุวโจ ที่พักสงฆ์ย่านยาว อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก หลวงปู่ทองคำ สุวโจ เกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2472 เป็นบุตร นายนวล กันสีชา และ นาง บุญ กันสีชา มีพี่น้องร่วมท้อง 4 คนโดยหลวงปู่เป็นบุตรคนโต เมื่ออายุ ได้ 14 ปี หลวงปู่ได้บรรพชาเป็นสามเณร วัดบ้านบ้านคำครั่ง อ.กระนวน จ. ขอนแก่น หลังจาที่ได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้วสนใจในการศึกษาเล่าเรียน จึงได้ออกเดินทางไปยังสำนักของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร และได้ศึกษาตำรามูลกระจายสูตร และพระคาถาต่างๆ จากพระอาจารย์ฝั้น เป็นเวลาถึง 9 ปี จากนั้นหลวงปู่จึงได้ลาสิกขา ถึงแม้จะเป็นฆราวาส หลวงปู่ทองคำก็ยังมิขาดที่จะศึกษาพระเวทย์ โดยข้ามฝั่งเดินทางไปศึกษาไปยังประเทศลาว ที่วัดพระบาทโพนสัน จาก พระครูขี้หอม หลังจากนั้นหลวงปู่ได้ข้ามกลับมาฝั่งไทย และอุปสมบทที่วัดราชพิสัย จ.มหาสารคาม โดยมี พระครูพิสัยสังฆกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทแล้วหลวงปู่ทองคำ ได้เดินทางออกธุดงค์เรื่อยมาตลอด และได้เดินทางไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่ทองมา ถาวโร และอยู่ปรนนิบัติและศึกษาวิชาต่างๆกับหลวงปู่ทองมา ถาว...