ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำปัน สุภัทโท
หลวงปู่คำปัน สุภทฺโท หรือ พระครูสุภัทรคุณ วัดสันโป่ง ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
นามเดิม : คำปัน รัตนาภรณ์ เป็นบุตรของนายสินและนางคำ รัตนาภรณ์
เกิด : วันศุกร์ที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ ตรงกับเดือน ๑๐ เหนือ แรม ๙ ค่ำ ปีมะเส็ง ณ บ้านสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
องค์ท่านเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ทางเมืองเหนือ ศิษย์หลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต หลวงปู่คำปัน องค์ท่านได้ติดตามรับข้ออรรถข้อธรรม อยู่กับองค์หลวงปู่่มั่นเกือบ ๒๐ ปี และเชี่ยวชาญการธุดงค์ เป็นผู้มักน้อย สันโดษ ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร, หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
หลวงปู่คำปัน สุภทฺโท ได้เริ่มต้นเข้าสู่ใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๒ ปี ณ วัดสันโป่ง โดยมีท่านครูบาปัญญา เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วได้ศึกษาอักขระภาษาไทย อักขระพื้นเมือง พระปริยัติธรรม กับพระอาจารย์อินต๊ะ และได้อุปสมบท เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ณ พัทธสีมาวัดสันโป่ง โดยมีท่านพระครูมงคลญาณเถร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจันต๊ะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการสุวรรณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลวงปู่คำปัน ได้เรียนปริยัติธรรม ภาษาบาลี พระปรมัตถธรรม วิชาโหราเวทย์ ไสยเวทย์ และวิปัสสนากัมมัฏฐานจากสำนักอาจารย์ต่างๆ เช่น ครูบาปัญญา วัดสันโป่ง ครูบาอินต๊ะ วัดต้นแก้ว (รัตนาราม) ผู้เชี่ยวชาญทางอรรถกถา-บาลี ครูบาธรรมธิ วัดสะลวง ผู้เชี่ยวชาญทางพรหมศาสตร์ ครูบาอินตา วัดเหมืองผ่า (เจดีย์สถาน) เจ้าคุณ (ราชครูวัดฝายหิน) ครูบาอริยะ วัดดับภัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สุดท้ายองค์ท่านได้ฝึกอบรมศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต
ได้พบท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต
หลังจากออกพรรษาแล้ว กิจวัตรพิเศษคือ หลวงปู่คำปัน จะออกธุดงค์ติดตามครูบาอาจารย์เพื่อปฏิบัติธรรมแสวงหาความวิเวกทุกๆ ปี มิได้ขาด อยู่มากระทั้งครูบาปัญญา เจ้าอาวาสวัดสันโป่ง และเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่คำปัน มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์ได้มอบหมายตำแหน่งเจ้าอาวาสให้หลวงปู่คำปัน ในขณะนั้นท่านมีอายุเพียง ๒๖ ปี แม้หลวงปู่ จะรับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสแล้ว แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติธรรมโดยเคร่งครัด กิจวัตรธุดงค์มิได้ขาด
ลุถึงสมัยหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดพระธาตุจอมแตง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลวงปู่คำปัน ได้เข้าฝากตัวเป็นสานุศิษย์ศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐาน กับหลวงปู่มั่น จนรอบรู้แตกฉาน เป็นพระสุปฏิปันโน หลวงปู่ใหญ่มั่น ท่านมิได้ให้หลวงปู่คำปัน ญัตติเป็นธรรมยุติกนิกายไม่ แต่ให้คงไว้ซึ่งมหานิกายเดิม เพราะไม่ได้เป็นอุปสรรคประการใด ในการปฏิบัติธรรม พระเถระผู้ร่วมอาจารย์เดียวกัน และต่างไปมาหาสู่กันเสมอๆ คือ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร เป็นต้น
นับแต่นั้นมา หลวงปู่คำปัน ก็ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ถือวัตรเอกา (ฉันมื้อเดียว) มักน้อย สันโดษ ไม่ยึดติด ไม่สะสม ไม่ติดในอามิสลาภผล ไม่มีปลิโพธกังวลในสิ่งใดๆ ตามแนวทางปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์มั่น แม้คราวเจ็บไข้อาพาธ นายแพทย์จะขอร้องให้ท่าน ฉัน ๒ มื้อ ท่านก็ไม่ยอม ท่านเคยพูดว่า "ถ้าให้ถอยหลังกลับไปมักมากฉันสองมื้ออีก ตายเสียไม่ดีกว่าหรือ.."
องค์หลวงปู่่คำปัน รักธรรมยิ่งกว่าชีวิต ท่านได้วางตนเป็นแบบอย่างอันดีเยี่ยม ตามแบบพระบูรพาจารย์ที่ท่านได้ศึกษาอบรมมา แม้จะเป็นผู้เงียบสงบ มักน้อย พูดน้อย ไม่โฆษณาโอหัง ไม่เผยแผ่ด้วยวาจา แต่ได้ดำเนินการเผยแผ่แบบปฏิบัติทำตนเป็นตัวอย่าง เรียกว่า สั่งสอนด้วยการทำให้ดู ซึ่งเป็นหลักการเผยแผ่ทางหนึ่ง
หลวงปู่คำปัน สุภทฺโท ได้มรณภาพดับขันธ์ลงเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๐ เวลา ๐๕.๐๐ น. สิริรวมอายุได้ ๘๕ ปี พรรษา ๖๕
หนังสือบูรพาจารย์ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต หน้า ๒๐๐-๒๐๖
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=48468
หลวงปู่คำปัน สุภทฺโท หรือ พระครูสุภัทรคุณ วัดสันโป่ง ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
นามเดิม : คำปัน รัตนาภรณ์ เป็นบุตรของนายสินและนางคำ รัตนาภรณ์
เกิด : วันศุกร์ที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ ตรงกับเดือน ๑๐ เหนือ แรม ๙ ค่ำ ปีมะเส็ง ณ บ้านสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
องค์ท่านเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ทางเมืองเหนือ ศิษย์หลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต หลวงปู่คำปัน องค์ท่านได้ติดตามรับข้ออรรถข้อธรรม อยู่กับองค์หลวงปู่่มั่นเกือบ ๒๐ ปี และเชี่ยวชาญการธุดงค์ เป็นผู้มักน้อย สันโดษ ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร, หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
หลวงปู่คำปัน สุภทฺโท ได้เริ่มต้นเข้าสู่ใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๒ ปี ณ วัดสันโป่ง โดยมีท่านครูบาปัญญา เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วได้ศึกษาอักขระภาษาไทย อักขระพื้นเมือง พระปริยัติธรรม กับพระอาจารย์อินต๊ะ และได้อุปสมบท เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ณ พัทธสีมาวัดสันโป่ง โดยมีท่านพระครูมงคลญาณเถร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจันต๊ะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการสุวรรณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลวงปู่คำปัน ได้เรียนปริยัติธรรม ภาษาบาลี พระปรมัตถธรรม วิชาโหราเวทย์ ไสยเวทย์ และวิปัสสนากัมมัฏฐานจากสำนักอาจารย์ต่างๆ เช่น ครูบาปัญญา วัดสันโป่ง ครูบาอินต๊ะ วัดต้นแก้ว (รัตนาราม) ผู้เชี่ยวชาญทางอรรถกถา-บาลี ครูบาธรรมธิ วัดสะลวง ผู้เชี่ยวชาญทางพรหมศาสตร์ ครูบาอินตา วัดเหมืองผ่า (เจดีย์สถาน) เจ้าคุณ (ราชครูวัดฝายหิน) ครูบาอริยะ วัดดับภัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สุดท้ายองค์ท่านได้ฝึกอบรมศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต
ได้พบท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต
หลังจากออกพรรษาแล้ว กิจวัตรพิเศษคือ หลวงปู่คำปัน จะออกธุดงค์ติดตามครูบาอาจารย์เพื่อปฏิบัติธรรมแสวงหาความวิเวกทุกๆ ปี มิได้ขาด อยู่มากระทั้งครูบาปัญญา เจ้าอาวาสวัดสันโป่ง และเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่คำปัน มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์ได้มอบหมายตำแหน่งเจ้าอาวาสให้หลวงปู่คำปัน ในขณะนั้นท่านมีอายุเพียง ๒๖ ปี แม้หลวงปู่ จะรับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสแล้ว แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติธรรมโดยเคร่งครัด กิจวัตรธุดงค์มิได้ขาด
ลุถึงสมัยหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดพระธาตุจอมแตง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลวงปู่คำปัน ได้เข้าฝากตัวเป็นสานุศิษย์ศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐาน กับหลวงปู่มั่น จนรอบรู้แตกฉาน เป็นพระสุปฏิปันโน หลวงปู่ใหญ่มั่น ท่านมิได้ให้หลวงปู่คำปัน ญัตติเป็นธรรมยุติกนิกายไม่ แต่ให้คงไว้ซึ่งมหานิกายเดิม เพราะไม่ได้เป็นอุปสรรคประการใด ในการปฏิบัติธรรม พระเถระผู้ร่วมอาจารย์เดียวกัน และต่างไปมาหาสู่กันเสมอๆ คือ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร เป็นต้น
นับแต่นั้นมา หลวงปู่คำปัน ก็ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ถือวัตรเอกา (ฉันมื้อเดียว) มักน้อย สันโดษ ไม่ยึดติด ไม่สะสม ไม่ติดในอามิสลาภผล ไม่มีปลิโพธกังวลในสิ่งใดๆ ตามแนวทางปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์มั่น แม้คราวเจ็บไข้อาพาธ นายแพทย์จะขอร้องให้ท่าน ฉัน ๒ มื้อ ท่านก็ไม่ยอม ท่านเคยพูดว่า "ถ้าให้ถอยหลังกลับไปมักมากฉันสองมื้ออีก ตายเสียไม่ดีกว่าหรือ.."
องค์หลวงปู่่คำปัน รักธรรมยิ่งกว่าชีวิต ท่านได้วางตนเป็นแบบอย่างอันดีเยี่ยม ตามแบบพระบูรพาจารย์ที่ท่านได้ศึกษาอบรมมา แม้จะเป็นผู้เงียบสงบ มักน้อย พูดน้อย ไม่โฆษณาโอหัง ไม่เผยแผ่ด้วยวาจา แต่ได้ดำเนินการเผยแผ่แบบปฏิบัติทำตนเป็นตัวอย่าง เรียกว่า สั่งสอนด้วยการทำให้ดู ซึ่งเป็นหลักการเผยแผ่ทางหนึ่ง
หลวงปู่คำปัน สุภทฺโท ได้มรณภาพดับขันธ์ลงเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๐ เวลา ๐๕.๐๐ น. สิริรวมอายุได้ ๘๕ ปี พรรษา ๖๕
หนังสือบูรพาจารย์ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต หน้า ๒๐๐-๒๐๖
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=48468
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น