ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2017

ประวัติหลวงปู่เก่ง ธนวโร (หลวงปู่ไก่ชน) วัดกิตติราชเจริญศรี

ประวัติหลวงปู่เก่ง ธนวโร (หลวงปู่ไก่ชน) วัดกิตติราชเจริญศรี บ้านนาแก ตำบลระเว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี หลวงปู่เก่ง ธนวโร หรือ อีกนามว่า หลวงปู่ไก่ชน ถือเป็นพระอริยะสงฆ์ที่สืบทอดจริยาวัตรปฏิบัติจากครูบาอาจารย์ได้ดีเยี่ยม ท่านเป็นศิษย์พระครูวิโรจน์รัตโนบล (ญาท่านดีโลด) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี สืบทอดวิชาตำรายันต์ฝังดาบ ทำหลักเขตบ้าน เรียนวิชาสายมหาปราบ แก้ที่แก้ทาง ที่มีเจ้าที่ดุร้าย จากญาท่านพรหมา วัดบ้านระเว และญาท่านรัตน์ วัดบ้านหัวดอน พระอุปัชฌาย์ เป็นผู้มีความเคารพในวิชาและศรัทธาในหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท หลวงปู่ท่านสามารถขับไล่ผี ปราบผีดุร้าย และนั่งทางในหยั่งรู้ เรื่องราวต่างๆได้ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ในสมัยก่อนแถบพิบูลมังสาหารจะได้ยินชื่อพระที่โด่งดังสามองค์ด้วยกัน หลวงปู่แพง ญาท่านสวน หลวงตาเก่ง ท่านเป็นคนที่สมถะเรียบง่าย มีเมตตาสูง อ่อนน้อมถ่อมตน ปัจจุบัน(๒๕๕๕) หลวงปู่เก่งท่านมีอายุ ๘๙ ปี และมีอายุพรรษา ๖๘ ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดกิตติราชเจริญศรี ( วัดบ้านนาแก ) หมู่ ๑ ตำบลระเว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ชีวประวัติและปฏิปทา หลวง

ประวัติหลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ วัดบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์

ประวัติหลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ (พระครูวิบูลย์ ปัญญาวัฒน์) วัดบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ วัดบ้านกรวด เป็นวัดเก่าแก่ประจำ อำเภอบ้านกรวดตั้งขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี มีอายุนับถึงปัจจุบันไม่น้อยกว่า120 ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่10 เมษายน พุทธศักราช 2469 มีประพุทธรูปศิลา อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นประธานในพระอุโบสถ มีเจ้าอาวาสครอง วัดติดต่อกันมานับถึงปัจจุบันรวม 4 รูปด้วยกัน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์ หรือ หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ ซึ่งได้บวชเรียนมาตั้งแต่อายุได้ 22 ปี เป็นต้นมานับถึงปัจจุบัน 97 ปี นับพรรษา ได้ 76 พรรษา เมื่อครั้งอดีตสมัยท่านเป็นพระหนุ่มๆท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งทางพระเวทย์ วิชาแพทย์แผนโบราณต่างๆ ตามความเชื่อและความนิยมของชาวพื้นบ้าน ในสมัยนั้น ได้ไปศึกษาเล่าเรียนเวทวิทยาอาคมที่จังหวัดอุดรมีชัยถึง 3 ปี (ในสมัยนั้นจังหวัดอุดรมีชัยยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย)จากนั้นท่าน ได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ แทบจะทุกภาคของไทยและประเทศ ใกล้เคียง เคยธุดงค์ไปศึกษาวิชาอาคมที่นครวัต ที่ประเทศเขมรเป็

ประวัติหลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จังหวัดร้อยเอ็ด

ประวัติหลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จังหวัดร้อยเอ็ด พระนักบุญแห่งภาคอีสาน ชาติภูมิ และอุปสมบท หลวง ปู่ทองมา ถาวโร เกิดเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๔๔๓ ปีชวด ที่บ้านท่าสี ตำบลท่าสี อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด บิดาชื่อ นายแก่นท้าว มารดาชื่อนางหา ภูมิวัล เป็นตระกูลที่มั่งคั่งในละแวกนั้น โยมบิดามารดาของท่านเป็นชาวลาวเกิดที่หลวงพระบาง ได้อพยพกันมาตั้งรกรากที่บ้านท่าสี ในวัยเด็กท่านได้ติดตามพระเณรไปอยู่วัดเสมอ เพราะต้องการศึกษาคาถากันผีตามประสาเด็ก ท่านจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านเป็นคนเรียนเก่งและอ่อนน้อมถ่อมตน กิริยามารยาทเรียบร้อยและไม่เคยเอาเปรียบเพื่อนฝูงทำให้เพื่อนฝูงรักใคร่กัน ทุกคน จนกระทั่งอายุได้ ๑๕ ปี ท่านจึงถูกทาบทามให้เป็นครูชั่วคราว ที่โรงเรียนบ้านเชียงใหม่ ทำการสอนได้ ๓ เดือนจึงมีครูใหม่มาสอนแทน หลังจากนั้นท่านได้บรรพชา เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๔๕๙ โดยมีพระอธิการคำแห่งบ้านงิ้วโพธิ์ อำเภอธวัชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ และจำพรรษา ณ วัดสว่างท่าสี ท่านมีความสนใจหนังสือจารใบลานที่ผูกเป็นมัดๆ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะเป็นบทสวดมนต์เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือนิทานพ

ประวัติหลวงปู่ทิม อิสริโก (พระครูภาวนาภิรัต) วัดละหารไร่

ประวัติหลวงปู่ทิม อิสริโก (พระครูภาวนาภิรัต) วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ชาติภูมิ หลวงปู่ทิม นามเดิมชื่อทิม นามสกุลงามศรี เกิดที่บ้านหัวทุ่งตาบุตร หมู่ที่ ๒ ตำบลละหารไร่ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันเป็นชายทั้ง ๓ คน ท่านเป็นคนที่ ๒ เกิดเมื่อ ปีมะแม วันศุกร์ เดือน ๗ ตรงกับวันที่ ๑๖ เดือน มิถุนายน ๒๔๒๒ เป็นบุตรของนายแจ้ นางอินทร์ งามศรี หลวงปู่ทิมเป็นหลานของหลวงปู่สังข์ โดยมารดาของท่านเป็นน้องสาวหลวงปู่สังข์ หลวงปู่สังข์นี้เป็นพระปรมาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคมอย่างยิ่งในสมัยนั้น หลวงปู่สังข์องค์นี้เป็นผู้ก่อตั้งวัดละหารไร่ขึ้น เป็นพระที่เรืองวิทยาอาคมมาก น้ำลายที่ท่านถ่มถ้าถูกพื้น ๆ จะแตก เมื่อทางจังหวัดทราบถึงความเก่งกล้าในวิทยาอาคมของท่าน จึงนิมนต์มาอยู่ที่วัดเก๋งจีน และได้สร้างพระเนื้อตะกั่ววัดเก๋งจีนขึ้น ก่อนที่จะไปอยู่วัดเก๋งจีนนั้น หลวงปู่สังข์ได้ทิ้งตำราและวิทยาการต่าง ๆ ไว้ที่วัดละหารไร่ทั้งหมด เพราะท่านไม่หวงแหนในวิชาของท่านแต่อย่างใด ท่านกล่าวว่า "ใครมีปัญญาก็ค้นคว้าเอาเอง" บรรดาตำราและวิทยาการต่าง ๆ หลวงปู่สังข์ได้ทิ้งไว้ที่วัดละหารไร่นี้เองที่หลวง

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ หรือ พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต วัดเวฬุวัน

ประวัติหลวงปู่อุดมทรัพย์ (พระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต) วัดเวฬุวัน ตำบลพยุห์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาติภูมิและอุปสมบท ณ บ้านหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ในวันศุกร์ที่  ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๓ ในครอบครัวของพ่อลี แม่ตุ่น สว่างกุล ได้ก่อกำเนิดลูกชายคนที่ ๘ จากจำนวนทั้งหมด ๙ คน เด็กคนนี้มีรูปร่างเล็กกว่าลูกคนอื่นๆ พ่อจึงได้ตั้งชื่อว่า "จ่อย" ซึ่งเป็นภาษาอีสานหมายถึงผอมแห้ง เด็กชายจ่อยได้เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวด้วยการช่วยทำงานทุกอย่างเหมือนดั่งเด็กโต ในยามว่างสิ่งหนึ่งที่เป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กชายจ่อยคือ ชอบไปนั่งคุยกับพระที่วัดถามถึงเรื่องบาปบุญว่ามีจริงไหม บาปอยู่ที่ไหน บุญอยู่ที่ใด เป็นคำถามที่พระในวัดมักจะถูกถามอยู่เสมอๆ ซึ่งพระในวัดท่านก็ตอบว่า "ถ้าอยากรู้ว่าบาปบุญมีจริงไหม ก็ลองมาบวชดูแล้วจะรู้" คำตอบที่พระท่านตอบมาทำให้ในวันนั้นเด็กชายจ่อยฝังใจในการหาคำตอบ พอเริ่มโตเป็นวัยรุ่น จึงได้ไปขออนุญาตพ่อแม่ว่า "บัดนี้ครอบครัวก็เป็นปึกแผ่นแล้ว อยากจะออกบวชเรียน เพื่อศึกษาหาคำตอบที่สงสัยมานาน" เมื่อพ่อแม่ได้ฟังดังนั้นก็ยินดีอนุโมทนาอนุญาตให้บวชเป็นสามเณ

ประวัติหลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร (พระครูธรรมสรคุณ) วัดกระทิง

ประวัติหลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร (พระครูธรรมสรคุณ) วัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี หลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร  พระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งแห่ง จันทบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิงท่านเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และมีอิทธิปาฏิหาริย์ มีวิชาอาคมอันแก่กล้า  โดยเฉพาะ ท่านสามารถใช้เวทมนตร์ สะกดพวกสัตว์ป่า ไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน ในตอนที่ เขาคิชฌกูฎ ได้เปิดให้ผู้คนขึ้นมาสักการะพระพุทธรูป ไหว้พระ และมากราบนมัสการท่าน ท่านเกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ณ บ้านกะทิง ต.พลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ (ขณะนั้นเป็นอำเภอมะขาม) จ.จันทบุรี เป็นบุตรของนายอยู่ และ นางมุ้ง ทองคำ ในครอบครัวของท่านประกอบอาชีพพวกเกษตรกรรม และการหาของป่าสมุนไพร ดังนั้น ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาพืชสมุนไพรและของป่าบนเขาคิชฌกูฏ จนมีความชำนาญ ในช่วงวัยเรียน ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จนกระทั่งพอท่านมีอายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 โดยมีพระครูนิเทศคณานุสิฏฐ์ วัดหนองอ้อ ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุร

ประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อมตะเถระ ๕ แผ่นดิน วัดบ้านจาน

ประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อมตะเถระ ๕ แผ่นดิน วัดบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ ชาติภูมิและอุปสมบท หลวง ปู่หมุน ฐิตสีโส เกิดในสกุล" ศรีสงคราม"หรือ " แก้วปักปิ่น" ถือกำเนิดเมื่อ วันพฤหัสบดี เดือน 5 ปีชวด พ.ศ. ๒๔๓๗ ณ บ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ บิดา ชื่อ "ดี "มารดาชื่อ " อั๊ว " มีอาชีพทำไร่ทำนา เป็นเด็กยากจน แต่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ต่อมาบิดามารดาเห็นแววทางด้านพระพุทธศาสนา จึงให้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๔ ปี และนำไปฝากกับพระอาจารย์สีดาเจ้าอาวาสวัดบ้านจาน ซึ่งเป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านกรรมฐานและมีวิชาอาคมที่เก่งมาก ในปี ๒๔๖๐ ขณะอายุได้ ๒๓ ปีได้เข้าอุปสมบทโดยมีหลวงพ่อสีดา เป็นพระอุปัชฌาชย์รับฉายาว่า " ฐิตสีโล " แปลว่า " ผู้มีศีลตั้งมั่น "จากนั้นได้ศึกษาวิชาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ในแถบนั้นเป็นเวลา ๔ ปี ก่อนออกแสวงหาครูบาอาจารย์อื่นๆ เพื่อศึกษาคันธธุระและวิปัสสนาธุระในชั้นที่สูงๆ ขึ้นไป ปี พ.ศ.๒๔๖๔ หลวงปู่หมุน เริ่มออกศึกษาแสวงหาประสบการณ์โดยได้ร่ำเรียนทั้งเวทย์วิทยา และสมถกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายสำนัก การเดินทางในสมัยนั้นเป็

เลือกแขวนพระประจำวันเกิด เกิดวันไหน แขวนพระอะไรดี?

เกิดวันไหน แขวนพระอะไรดี วัตถุมงคลที่คนไทย..โดยเฉพาะชาวพุทธ นิยมนำติดตัวเพื่อเป็นศิริมลคล หรือเครื่องรางของขลังก็แล้วแต่ ...มีผู้แนะนำการแขวนพระติดตัวตามวันเกิดไว้ ก็ลองพิจารณาดู..จะแขวนตามวันที่ท่านกล่าวไว้ หรือแขวนตามชอบใจก็แล้วแต่ใจ...ของให้มีไว้แล้วเป็นสุข...เห็นเครื่องลาง ของขลัง วัตถุมงคลที่ตนติดตัวแล้วเกิดความมั่นใจ...ไม่ละเมิดคนอื่น...เป็นใช้ได้... คนเกิดวันอาทิตย์ ท่านว่าคนเกิดวันอาทิตย์นั้นเป็นคนมีความมาดมั่น มุ่งมั่นในงาน มีความว่องไว แต่มักฉุนเฉียวง่าย โกรธง่าย ตัดสินใจเร็วมักขาดความยั้งคิด โบราณจารย์ท่านจึงให้พระพุทธปางถวายเนตรเป็นพระประจำวันเกิดเนื่องจากเป็นปางยืนพิจารณาธรรมอันปิติ ในท่าสำรวม หมายถึงการกระทำอย่างมีสติ ดังนั้นเมื่อดาวอาทิตย์ เป็นตำแหน่งลักขณาที่มีอำนาจอยู่ในตัว พระเครื่องที่ผู้เกิดวันอาทิตย์ควรอาราธนาเพื่อความเป็นศิริมงคลนั้นควรจะเป็นพระพิมพ์ที่ผ่านความร้อนจากไฟ เนื่องจากจะช่วยหนุนธาตุประจำตัวและโดยเฉพาะอย่างยิ่งควรเป็นพระปางมารวิชัย เนื่องจากเป็นพระพิมพ์ ที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะพญามารเนื่องจากเจ้าชะตาผู้เกิดวันอาทิตย์เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจป

ประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อมตะเถระ ๕ แผ่นดิน อายุ ๑๐๙ ปี

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล " ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบไหว้ " อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา อิมะมะมามา ผู้เขียน : ClubMahaAud(73) * วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ " ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคหมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระ ที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน " # หลวงปู่หมุน ท่านกำเนิดเมื่อ พศ.2437-2546 อายุยืนถึง 109 ปี พระเครื่องของท่านออกมา ช่วงบั้นปลายชีวิต ในปีพศ.2542-45 จึงดูเหมือนเป็นพระเครื่องใหม่ อายุพระไม่เกิน10ปี ความนิยมในท้องตลาดพระเครื่อง ยังมีไม่มา

หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จังหวัดศรีสะเกษ

หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จังหวัดศรีสะเกษ เกจิแห่งอิสานใต้ หลวงปู่แสน ปสนฺโน ชื่อเดิม ปู่แสน คุ้มครอง เกิดขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ปีวอก ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มี่พี่น้องต่างมารดาร่วม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 3 (ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว) พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์ (ปัจจุบัน ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีษะเกษ) เมื่อครั้นยังเด็กหลวงปู่เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพรงและพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู จนได้บวชเณรที่วัดบ้านโพรง ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุมวัดปราสาทเยอใต้จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี ระหว่างเป็นเณรก็ได้เที่ยวไปมาระหว่างบ้านปราสาทเยอใต้และบ้านโพง จนกระทั่งอายุ 21 ปีได้เข้าอุปสมบท ระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งอายุ 24 ปี ได้ลาสิขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน หลังจากสึกได้บวชเป็นหมอธรรมขณะที่เป็นคาราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อ

ประวัติหลวงปูสอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จังหวัดนครพนม

ประวัติหลวงปูสอ ขันติโก หลวงปู่สอ ขันติโก ท่านมีนามเดิมว่า สอ แก้วดี ท่านเกิดในตระกูลชาวนา เกิดเมื่อวันจันทร์ ปีมะเส็ง พ.ศ. 2448 ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ หลานแท้ๆ (ลูกของคุณยายเฮียง) และชาวบ้านที่บอกว่าในใบสุทธินั้นระบุวันเดือนปีเกิดและวันที่อุปสมบทคลาดเคลื่อนไป โดยระบุว่า เกิดวันที่ 20 พฤษาคม 2460 คลาดไป 12 ปี เพราะแม่ของหลวงปู่แจ้งเกิดให้ท่านช้าไปมากและไม่ได้นำเข้าทะเบียนราษฏร์ เนื่องด้วยท่านติดตามหลวงปู่สีทัตถ์ไปตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งจริงๆแล้วท่านเกิดปี 2448 วันที่อุปสมบทจาก 2480 เป็น 2512 ( 16 ก.พ. 2512 ) เนื้องด้วยเป็นใบที่ใช้ยืนยันตัวตนของท่านซึ่งขอทำในวันเวลาดังกล่าว บิดาชื่อ คุณพ่อเพ็ง เป็นชาวลาว มารดาชื่อ คุณแม่จันทร์ แม่พี่น้องร่วมกันอยู่ 6 คน 1. นายสุ เพียมา เสียชีวิตแล้ว 2. หลวงปู่สอ ขันติโก 3. นายสาน บุญรักษา เสียชีวิตแล้ว - พี่น้องต่างบิดาอีก 3 คน 4. นางจูม กัณหา เสียชีวิตแล้ว 5. นางเจียง รามศรี เสียชีวิตแล้ว 6. นางเฮียง รามศรี เสียชีวิตแล้ว เมื่อแรกเกิดหลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า แม่ของท่านบอกว่าตอนหลวงปู่เกิด สายรกพันคอ จะได้บวชเป็นแน่ พอเมื่อหลวงปู่ท่านยังเด็ก

พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่ศุข เกสโร เกิด พ.ศ. พ.ศ. 2390 ซึ่งตรงกับปลายรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในวัยหนุ่มท่านเคยได้แต่งงานกับหญิงสาวจนมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน อุปสมบท เมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทเพื่อทดแทนบุญคุณบิดามารดา ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ทองล่าง จังหวัดนนทบุรี โดยมีพระอธิการเชย จันทสิริ เจ้าอาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านก็จำพรรษาอยู่ที่นี้ หลวงปู่ศุข ท่านได้อยู่ปรนนิบัติอาจารย์ซึ่งเป็นพระที่เคร่งครัดในด้านวิปัสสนา จึงได้ศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนเวทมนตร์คาถา ต่อมาท่านได้กราบลาพระอุปัชฌาย์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสามง่าม ปทุมวัน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม และย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงครามบางลำพู ณ ที่นี่ท่านได้พบกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานจังหวัดพิจิตร ได้ศึกษาวิชาต่างๆร่วมกันท่านทั้งสองจึงมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่ชัยนาท ต่อมาปี พ.ศ. 2435 ท่านได้ธุดงธ์เข้าเขตชัยนาทมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดปากคลองมะขามเฒ่าซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน ท่านได้บูรณะซ่อมแซมเสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านต่างพากันเลื่อมใสศรัทธา

พระพุทธวิถีนายก (บุญ ขนฺธโชติ) หรือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

พระพุทธวิถีนายก หรือ หลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ (3 กรกฎาคม พ.ศ. 2391 — 4 เมษายน พ.ศ. 2478) เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว วัตถุมงคลของท่านที่นับว่าขึ้นชื่อที่สุดคือ เหรียญเจ้าสัว พระผงยาวาสนา จินดามณี และเบี้ยแก้วที่มีคุณวิเศษทั้งรักษาโรค และ เมตตามหานิยม และแก้เหตุร้ายให้กลายเป็นดี ประวัติพระพุทธวิถีนายก หรือหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ พระพุทธวิถีนายก มีนามเดิมว่าบุญ เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2391 ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรชายคนโตในจำนวนที่น้อง 6 คนของนายเส็งและนางลิ้ม ตอนเด็กเคยเป็นไข้หนักถึงสลบ บิดามารดาเข้าใจว่าตายแล้ว ขณะเตรียมจะเอาไปฝังได้กลับฟื้นขึ้นมาอีก จึงขนานนามว่า บุญเมื่อบิดาถึงแก่กรรม ป้าของท่านได้นำมาฝากให้อยู่กับพระปลัดทอง วัดคงคาราม (วัดกลางบางแก้ว) อำเภอนครชัยศรี เมื่อมีอายุ 15 ปีจึงบรรพชาเป็นสามเณร และได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2412 โดยมีพระปลัดปาน วัดตุ๊กตา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดทอง วัดกลางบางแก้ว พระอธิการทรัพย์ วัดงิ้วราย และพระเกจิอาจารย์อีก 2 ท่าน และได้รับฉ

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง)

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี หรือ หลวงพ่อแช่ม ท่านเกิดที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงาท่านเกิดในพุทธศักราช 2370 (ปีกุน) ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง และเป็นที่เคารพเลื่อมใสอย่างมากของชาวจังหวัดภูเก็ต ท่านได้มรณภาพ เมื่อ พ.ศ. 2451 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ประวัติพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี หรือ หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากพ่อท่านเฒ่า ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระครูวิสุทธิวงศาจาริย์ญาณมุนี" ตำแหน่งสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต ไม่ปรากฏนามโยมบิดามารดา โดยโยมบิดามารดาได้ให้ท่านอยู่ ณ วัดฉลอง โดยเป็นศิษย์ของท่านพ่อเฒ่าเมื่อครั้งเยาว์วัยจนได้บวชสามเณร และได้บรรพชาเป็นพระภิกษุจำพรรษาที่วัดฉลอง (ในปี พ.ศ. 2420 ได้รับพระราชนามเป็น วัดไชยธาราราม) ตำบลฉลอง อำเภอเมือง (เดิม ทุ่งคา) จังหวัดภูเก็ต หลวงพ่อแช่มชำนาญด้านสายวิปัสนาธุระได้รับการศึกษาด้านนี้จากพ่อท่านเฒ่าจนมีความเชี่ยวชาญ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประวัติ หลวงปู่ทอง อายะนะ วัดราชโยธา

หลวงปู่ทอง อายะนะ (พ.ศ. 2363 - พ.ศ. 2480) เป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าที่มีอายุยืนยาวถึง 117 ปี ท่านเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม เชี่ยวชาญด้านพุทธาคมอย่างลึกซึ้ง เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้กับ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ส่วนลูกศิษย์ฆราวาสที่เคราพเลื่อมใสท่านมากก็คือ พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของประเทศไทย ด้านวัตถุมงคลของท่านมีทั้งพระเครื่องเนื้อพิมพ์สมเด็จ ลูกอม ชานหมาก เสื้อยันต์ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ เหรียญรุ่นแรก ประวัติหลวงปู่ทอง อายะนะ หลวงปู่ทอง อายานะ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2363 ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นบุตรของนายฮวด แซ่ลิ้ม ชาวจีนฮกเกี้ยน มารดาเป็นชาวมอญ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2384 ได้อุปสมบท ณ วัดบางเงินพรม ตลิ่งชัน โดยมีท่านเจ้าคุณวินัยกิจจารีเถระ (ภู่) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ของ วัดบางเงินพรม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาตามภาษามคธว่า อายะนะ หลังจากอุปสมบทมา ได้พำนักจำพรรษา ณ วัดแห่งนั้นเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และคอยอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ของท่านภายหลังได้ธุดงค์วัตรเพื่อแสวงหาโมกขธรรม เมื่อพระราชโยธาก่อสร้างวัดราชโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้น

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) หรือสมเด็จโต, หลวงปู่โต หรือ สมเด็จวัดระฆัง

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) (นามเดิม: โต) หรือนามที่นิยมเรียก "สมเด็จโต" "หลวงปู่โต" หรือ "สมเด็จวัดระฆัง" เป็นพระภิกษุมหานิกาย เป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย ท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ 4-5 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน และนอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคล "พระสมเด็จ" ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล 1 ใน 5 ของประเทศไทย และมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคานับล้านบาท[3] ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่าน ทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย และมีผู้นับถือจำนวนมากในปัจจุบัน ประวัติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกิ

หลวงปู่ทวด (หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ, หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด, สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์)

หลวงปู่ทวด (หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ, หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด, สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์) เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยจากตำนานท้องถิ่นซึ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ยืนยันความมีอยู่จริง ประวัติที่พิมพ์เผยแพร่กล่าวว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รูปสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ในตำนานที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก รูปสำคัญ 1 ใน 2 มหาเกจิอาจารย์ของเมืองไทย คู่กับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) (หลวงปู่โต) ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ประวัติหลวงปู่ทวด (หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ, หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด, สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์) ตามตำนานกล่าวว่าหลวงปู่ทวด เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ย (ทาสทำงานใช้หนี้) ของเศรษฐีปานเกิดในรัชกาลของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช หลวงปู่ทวดมีนามเดิมว่า ปู เป็นบุตรของนายหู นางจัน ชาวบ้านวัดเลียบ ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ส่

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ เกิดวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2353 ตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ประวัติ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ นามเดิมแรกเกิดของท่านคือ เงิน เมื่อท่านอายุได้ 3 ขวบ ผู้เป็นลุงได้พามาอยู่ที่กรุงเทพฯศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดชนะสงคราม ต่อมา เมื่อท่านอายุ 12 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดชนะสงครามศึกษาพระธรรมวินัย คำภีร์มูลกัจจายน์ เวทมนตร์คาถาและวิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน จากนั้น ท่านได้อุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปี ณ วัดชนะสงคราม มีฉายาว่า "พุทธโชติ" บวชได้ 3 พรรษา ก็ย้ายมาจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) ต่อมาย้ายเข้าไปอยู่ที่ในหมู่บ้านวังตะโก อยู่ห่างจากวัดคงคารามคนละฝั่งเท่านั้น ตอนที่ย้ายจากวัดคงคาราม หลวงพ่อได้นำกิ่งโพธิ์ติดต้วมาด้วย 1 กิ่งแล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกเสี่ยงทาย ถ้าหากต้นโพธิ์ตายก็คงจะอยู่ไม่ได้ ถ้าหากที่นี่จะเป็นวัดได้ขอให้ต้นโพธิ์เจริญงอกงาม ปรากฏว่า ต้นโพธิ์เจริญงอกงามแผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่โต หลวงพ่อเงินก็ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ที่นี่ด้วย และท่านเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ศุข ซึ่งหลวงปู่ศุขก็ได้ฝากกรมหลวงชุมพรเขตอุ

พระเครื่อง หมายถึงอะไร? (คืออะไร?)

พระเครื่องราง นิยมเรียกโดยย่อว่า พระเครื่อง หมายถึง พระพุทธรูปขนาดเล็ก สร้างไว้สำหรับบรรจุไว้ในเจดีย์ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า อาจจะรวมถึงรูปสมมติขนาดเล็กของพระสงฆ์อริยบุคคล พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าด้วย ประวัติการสร้าง ณัฐพล อยู่รุ่งเรืองศักดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เขียนไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์ผ่านพระเครื่องไว้ว่า พระเครื่องมีความเป็นมาและวิวัฒนาการอันยาวนาน ก่อนจะมาเป็นพระเครื่องนั้นได้เกิดพระพิมพ์ขึ้นมาก่อน เมื่อบริบททางสังคมเปลี่ยนไป คติการสร้างพระพิมพ์ก็เปลี่ยนแปลงไปและเลือนหายไปในที่สุด พระพิมพ์บางส่วนกลายมาเป็นพระเครื่อง พระพิมพ์เป็นของเก่าแก่ที่ได้มีผู้ทำขึ้นตั้งแต่ตอนต้นพุทธศาสนา มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินเดีย การแผ่ขยายอิทธิพลทางพุทธศาสนาไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ทำให้พระพิมพ์ซึ่งเป็นประติมากรรมเนื่องในคติทางพุทธศาสนาได้แผ่กระจายไปยังดินแดนต่าง ๆ พร้อมกับคำสอน ความเชื่อทางพุทธศาสนา พระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงวัตถุเนื่องในพุทธศาสนาด้วย พุทธศาสนาเข้ามาสู่ประเทศไทยราวสมัยทวารวดีพร้อมกับความเชื่อเรื่องการสร้างพระพิมพ์ ใน